รีวิวเที่ยวเกาะค๊อกเบิร์น Cock Burn ทะเลพม่า กับ Love Andaman
ฮัลโหล สวัสดีครับทุกท่าน กลับมาพบกันอีกครั้งนึง ครั้งนี้แอดมินจะพาไปเที่ยวทะเลพม่า ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าสวยมากกก แดดจ้า ฟ้าใส ทราย-ขาวนุ่มละมุนสุดๆ มุมถ่ายรูปมีให้เลือกถ่ายมากมายหลายแสนมุม ที่สำคัญ การเดินทางไปไม่ได้ยากเลย สะดวกสบายมากๆ ไม่ได้อยากอย่างที่ทุกคนคิดเลย คือไปเที่ยวทะเลพม่าก็จริง แต่การเดินทาง การทำเอกสารผ่านแดนต่างๆ ง๊ายง่าย เหมือนเที่ยวในประเทศเลยทีเดียวละครับ เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราไปเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
คือผมต้องขอเกริ่นก่อนเลยนะครับ เกาะที่เราจะพาทุกท่านไปเที่ยวในวันนี้ก็คือ เกาะค๊อกเบิร์น Cock Burn ใช่แล้วครับ “ค๊อกเบิร์น” ชื่ออาจจะฟังดูไม่ค่อยคุ้นเท่าไร แต่มีชื่อไทยเกร๋ๆว่า หมู่เกาะช้างเผือก ซึ่งเกาะนี้อยู่ในทะเลพม่า และเพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน เพราะฉะนั้น ทุกท่านจะได้สัมผัสถึง ธรรมชาติอันสุดแสนจะสมบูรณ์ หาดทรายที่ขาวสะอาด น้ำทะเลที่ใสปิ๊งมองทะลุได้ถึงพื้นกันเลยทีเดียว นอกจากนั้นบรรดาปะการัง และเหล่าปลาทั้งหลาย ก็ยังมีเยอะมาก เหมาะสำหรับการดำน้ำดูปะการังอย่างยิ่ง เรียกได้ว่าดำน้ำดูกันเพลินเลยละครับ
:: การเดินทาง ::
ทะเลพม่าคือหลายคนอาจจะคิดว่าเฮ้ย นี้เราต้องไปยังไงละเนี้ย ต้องบินไปลงพม่าไหม ถึงจะไปได้ แล้วต้องทำวีซ่ารึเปล่า ผมขอบอกตรงนี้เลยว่า มันง่ายมากกกกก พกไปแค่บัตรประชาชนใบเดียวก็เที่ยวได้แล้ว เดี่ยวผมจะอธิบายให้ฟังตามนี้นะครับ
การเดินทางไปทะเลพม่า เกาะค๊อกเบิร์น เราสามารถเดินทางโดยการนั่งเรือไปโดยตรง จากทางฝั่งไทยได้เลยไม่ต้องผ่านทางประเทศพม่าแต่อย่างใด โดยท่าเรือที่เราจะขึ้นไป เกาะค๊อกเบิร์น คือท่าเรือประภาคาร ที่จังหวัดระนอง โดยที่บริเวณท่าเรือจะมีจุดผ่านแดนของไทยซึ่งเราใช้แค่เพียงบัตรประชาชนไปเดียวในการทำเรื่อง หลักจากนั้นเราก็ขึ้นเรือไปเพื่อไปทำเรื่องเข้าแดนพม่าที่บริเวณเกาะสอง ซึ่งตรงนี้เราไม่จำเป็นต้องลงจากเรือแต่ประการใด จะมีเจ้าหน้าที่จากทางฝั่งพม่ามาจัดการทำเรื่องให้ที่เรือ ที่เรือนั่งไปเลยครับ แค่นี้เองครับ ง่ายๆสบายมาก
การเดินทางไปยัง เกาะค๊อกเบิร์นใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง รวมเวลาในการยื่นเอกสารที่เกาะสองประเทศพม่า โดยที่เรือจะออกจากท่าเรือประภาคาร จ.ระนอง เวลาเช้า เรือออกเดินทางทุกวันอังคาร พฤหัส ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ทั้งหมดห้าวันครับผม เอาล่ะมาเริ่มต้นการเดินทางไปด้วยกันกับผมเลยนะคร๊าบบบ…
เราเริ่มออกเดินทางจากท่าเรือประภาคาร ที่จังหวัดระนอง เวลาเช้า ผมแนะนำว่าควรทานอาหารเช้ามาให้เรียบร้อย จะได้มีพลังทำกิจกรรมได้ตลอดทั้งวันด้วย เพราะกิจกรรมมีเยอะมาก โดยที่จุดท่าเรือประภาคารนี้จะเป็นจุดผ่านแดนประเทศไทย โดยที่ผู้ที่จะโดยสารที่จะไป เกาะค๊อกเบิร์น ต้องยื่นเอกสารที่จุดนี้โดยใช้บัตรประชาชนใบเดียวเท่านั้นเอง ไม่ต้องพกพาสสปอร์ตมาด้วยก็ได้ครับผม
เมื่อผ่านจุดตรวจแล้ว เราก็เดินเข้ามาที่ด้านในเพื่อนขึ้นเรือ โดยที่จุดนี้เราจะต้องฝาก รองเท้าของเราไว้ที่ท่าเรือก่อน ผมแน่ะนำว่าใครที่จะไปที่เกาะค๊อกเบิร์น แล้วต้องการจะขึ้นไปที่จุดชมวิวบนเกาะ ควรจะต้องเตรียมซื้อรองเท้าสำหรับเอาไว้ใส่ในทะเลไปด้วย เพราะทางขึ้นจุดชมวิวมีหินพอสมควร ถ้าเดินเท้าเปล่าแล้วไม่ระวังอาจได้รับบาดเจ็บได้
เรือที่เราใช้เดินทางเป็นเรือสปีทโบ๊ท ลำใหญ่โต สวยงาม ขนาดสี่เครื่องยนต์ รองรับผู้โดยสารได้ถึง 75 คน เรือใหญ่แบบที่ ไม่ต้องกลัวว่าเรือจะโคลงเคลงเวลาเจอคลื่นเลย เรือวิ่งเร็วและนิ่งมาก ที่นั่งเป็นเบาะอย่างดี นั่งสบ้ายสบาย ไม่เมื่อยเลยครับ
เมื่อเราเลือกที่นั่งได้แล้ว ก็เก็บสัมภาระให้เรียบร้อยแล้วก็ใส่เสื้อชูชีพเพื่อความปลอดภัยด้วยนะครับ สำหรับใครที่เมาเรือ หรือว่ากลัวจะเมาเรือ สามารถขอยาแก้เมาเรือ ได้ที่ไกด์ประจำเรือได้เลยครับ พี่ๆ ไกด์เค้าใจดีและเป็นกันเองมากๆเลยครับ ถ้าสงสัยหรือว่ามีปัญหาอะไรเราก็สามารถบอกไกด์ได้เลยครับผม Love Andaman เค้าบริการเราด้วยใจจริงๆ รับลองทุกคนต้องประทับใจแน่นอนครับผม
เรือจะออกท่าเรือประภาคาร จ.ระนอง ตรงเวลานะค้าบ อย่ามาสายกันน้า โดนทิ้งไม่รู้ด้วย โดยที่เราจะต้องเดินทางไปที่เกาะสอง ประเทศพม่ากันก่อน เพื่อทำเรื่องยื่นเอกสารขอผ่านแดน โดยตรงจุดนี้ เราแค่นั่งรอในเรือเฉยๆเลยครับ เพราะทาง Love Andaman จะเป็นคนจัดการให้หมด โดยจะมีเจ้าหน้าที่พม่ามาอำนวยความสะดวกในการผ่านแดนให้ที่ท่าเรือเลย ใช้เวลารอไม่นานเพียงแค่ประมาณ 10 นาที เรือก็ออกแล่นฉิววววเพื่อไปเกาะค๊อกเบิร์น กันต่อไปละครับ
หลังจากที่เรานั่งเรืออย่างชิลๆ มาได้ประมาน 1ชั่วโมง 15 นาที เราก็มาถึงเกาะค๊อกเบิร์น ประเทศพม่ากันละครับ คือต้องบอกเลยว่า สัมผัสแรกที่ได้เห็น เกาะค๊อกเบิร์น คือแบบว่าาาาาา ทรายขาวนุ่มละเอียด น้ำใส ต้นไม้ร่มรื่น บรรยากาศดีสุดๆ ดูได้จากภาพเลยค้าบ ว่าสวยขนาดไหน
โดยที่เกาะนี้จะไม่มีท่าเรือนะครับ เรือจะมาจอดเลียบกับชาดหาด เราจะต้องเดินลุยน้ำเข้าไปหน่อยนึง ถ้าใครกลัวชุดจะเปียก ผมแน่ะนำให้ใส่ชุดว่ายน้ำมาเลยจะได้พร้อมทำกิจกรรมได้ทันที แต่ถ้าใครที่ไม่สะดวก ก็สามารถไปเปลี่ยนบนเกาะได้ บนเกาะมีห้องน้ำให้ใช้บริการได้อย่างสะดวกสบาย
เอาละครับ พอมาถึงบนเกาะ กิจกรรมที่ทุกคนจะพลาดไม่ได้เลยก็ต้อง ถ่ายรูป ถ่ายรูป แล้วก็ ถ่ายรูป สิครับจะรออะไร หาดสวย น้ำใสขนาดนี้ คงไม่มีใครที่จะไม่หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปกันแน่ๆ
คือต้องบอกเลยว่า อีกจุดเด่นของ เกาะค๊อกเบิร์น ก็คือความเงียบสงบ ไร้ผู้คน เพราะว่าเกาะนี้มีทาง Love Andaman แต่เพียงผู้เดียวที่ได้รับอนุญาติให้พานักท่องเที่ยวมาลงที่เกาะนี้ได้ ทำให้เราสามารถเดินเล่นถ่านรูปได้อย่างสบายใจไม่ต้องกลัวคนอื่นมีติดเฟรม แต่อย่างใด
บนเกาะมีชิงช้าให้ไปนั่งเล่นถ่ายรูป หรือว่าจะไปยืนบนชิงช้าถ่ายรูปเท่ๆ คู่กับป้ายชื่อของเกาะก็ยังได้
ชิงช้าอันใหญ่ก็มีนะค้าบ อยากจะลองไปนั่งถ่ายรูปคู่อยู่เหมือนกัน แต่พอดีเชือกจะเส้นเล็กไปหน่อย กลัวจะไปทำองเค้าขาดอยู่เหมือนกัน เลยได้แต่ยืนถ่ายรูปเท่ๆไปแทนละกันเนอะ
คือจะถ่ายรูปมุมไหนก็ไม่มีติดคนอื่นเลยครับ เกาะค๊อกเบิร์น ให้ความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวมากจริงๆ เหมือนเราได้เป็นเจ้าของเกาะเลยครับ
เดินเลยแนวต้นไม้มา ก็จะมีมุมที่เป็นโขดหินและหน้าผา ให้ไปนั่งเล่นชมวิวทะเลสวยๆ ถ่ายรูปเล่นก็ยังได้
เรือคายัคก็มีให้ยืมน้าา สามารถนำเรือออกไปพายได้เลย พายไม่ยากเลยครับเนื่องจาก คลื่นไม่แรงเลย
นอนเล่นถ่ายรูปก็ยังได้ อากาศดีขนาดนี้ นอนตากแดดถ่ายรูปยังได้ ฮ่าๆๆ ตรงจุดที่ผมไปถ่ายรูปนี้น้ำลึกมากนะครับแต่น้ำก็ยังใสมองเห็นได้ถึงพื้นทะเลเลย
น้ำใสม้ากมาก พายเรือเล่นกันจนเพลินลืมเวลาเลยทีเดียวละครับ พอรู้สึกตัวอีกทีก็ใกล้ได้เวลา รับประทานอาหารกลางวันกันแล้ว จึงต้องยอมกลับเข้าฝั่งแต่โดยดี
นอกจากจะมีเรือคายัคแล้ว บนเกาะยังมีห่วงยาง เบาะลอยน้ำหลากสี หลายขนาดให้นักท่องเที่ยวได้หยิบไปใช้กันตามสบายอีกด้วย แล้วก็ยังมี กระดานโต้คลื่นด้วยนะค้าบ กิจกรรมเยอะมากจริงๆ
หลังจากที่เราเล่นน้ำ ถ่ายรูป กันมาเหนื่อย หมดเวลาไปครึ่งวันก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย นั้นก็คือ อาหารกลางวัน ต้องบอกเลยว่า ทาง Love Andaman เลี้ยงดูนักท่องเที่ยวทุกคนดีมาก เพราะ อาหารที่นำมาเสิร์ฟให้ทุกคนได้ทานนั้น อร่อยมาก แถมเป็นแบบ บุฟเฟ่ต์ ทานได้ไม่อั้น อิ่มทั้งใจ และอิ่มท้องกันไปเลยทีเดียวละครับ
อาหารที่ไลน์บุฟเฟ่ต์มีให้เลือกทานมากมาย ทั้งส้มตำมีที่ทั้งแบบเผ็ด ส่วนใครที่ไม่ทานเผ็ดก็มีให้ทานเช่นกัน นอกจากนั้นยังมีต้มยำกุ้ง ไก่ทอด ลาบหมู ให้รับประทานกันด้วย ซึ่งขอบอกเลยว่าอร่อยหมดทุกอย่างเลยจริงๆครับ แต่ผมจะแอบบอกหน่อยว่า ขนมหวานที่นี้อร่อยมาก มีให้เลือกกินหลายอย่างมาก โดยเฉพาะ เค้กมะพร้าวอ่อน คือดีงามมากกกกกก ฟินสุด นุ่มละมุนลิ้น แทบละลายในปาก ผมนี้โดนไปเกือบสิบชิ้นเลยครับ ฮ่าๆ
สำหรับบริเวณที่นั่งทานอาหารนั้น ก็จะอยู่ริเวณหาดรอบๆกับบริเวณที่ตักอาหารครับ สามารถเลือกนั่งได้ตามอัศยาศัยเลยครับ นั่งได้สบายเพราะอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ไม่ต้องกลัวร้อนเลย ส่วนพวกเครื่องดื่ม ก็มีทั้งน้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำผลไม้ ชา กาแฟ หรือแม้แต้อิตาเลียนโซดาก็สามารถสั่งกับพี่ๆพนักงานได้เลยครับ
มีหลายมุมให้เลือกเลยครับ ใครทานไม่อิ่มสามารถไปตักเพิ่มได้เรื่อยๆเลยน้า ส่วนใครี่อยากจะโชว์ฝีมือตำส้มตำเองก็สามารถทำได้นะค้าบ แล้วก็อย่าลืมน้าว่าที่นี้เป็นแบบบริการตัวเอง ใครทานเสดแล้วอย่าลืมนำภาชนะไปเก็บให้เรียบร้อยตามจุดเก็บภาชนะด้วยนะคร๊าบ
เอาละครับพอพักเที่ยงกันเสร็จก็มาถึงจุดไฮไลท์ของกิจกรรมประจำวันนี้กันแล้วละครับ โดยกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรจะพลาด ก็คือ การเดินขึ้นไปที่จุดชมวิวของเกาะช้างเผือกซึ่งทุกท่านจะได้ชมวิวแบบ 360 องศา เลยทีเดียว และอีกกิจกรรมหนึ่งก็คือ การดำน้ำชมปะการัง ที่บอกเลยว่าสมบูรณ์มาก เอาล่ะครับไปชมกันดีกว่า
ต้องบอกเลยว่าจุดนี้เป็นจุดที่ทุกคนไม่ควรพลาดเลย เพราะว่าสวยมากก แต่การปีนขึ้นไปที่ด้านบน อาจจะันซักหน่อยนึงนะครับ แล้วก็มีพวกหินที่แหลมคมอยู่บ้าง ระวังกันด้วยนะค้าบ ส่วนตัวผมแนะนำว่า ให้พกรองเท้าที่เอาไว้สำหรับเดินในทะเลมาด้วยเพราะจะช่วยให้การเดินของคุณง่ายขึ้นเยอะ แล้วก็ปลอดภัยกว่าด้วย โดยสามารถที่จะซื้อได้ตอนก่อนลงเรือ ที่ท่าเรือประภาคาร จ.ระนอง เลยครับ
บริเวณจุดมวิวนี้จะตั้งอยู่ตรงกลางของเกาะค๊อกเบิร์น เลยพอดี ทำให้สามารถเห็นวิวได้จากทุกด้านเลยครับ เป็นวิวแบบ 360 องศาเลย มองไปทางไหนก็เห็นน้ำทะเลใสๆ สามารถมองเห็นได้ถึงปะการังที่อยู่ในน้ำเลยครับผม
จุดนี้ต้องบอกเลยว่า ไม่ควรเดินขึ้นมาตัวเปล่าๆนะครับ ควรจะต้องพกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาด้วย เพราะว่าวิวข้างบนนี้สวยประทับใจมากจริงๆ
เอาละครับมาถึงไฮไลค์จริงๆกันซักที คือด้วยเนื่องจากเกาะค๊อกเบิร์น เป็นเกาะที่เปิดใหม่ได้ไม่นาน แถมยังไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปได้มาเที่ยวเองด้วย ต้องมากับทาง Love Andaman เท่านั้นนะ ถึงจะมาที่เกาะนี้ได้ ทำให้เกาะนี้ ธรรมาชาติสมบูรณ์มาก มีทั้งปลา และ ประการังให้ นักท่องเที่ยวได้ดำน้ำชมกันเพลินเลยละครับ
จุดดำน้ำที่เราจะพาไปวันนี้เป็นจุดที่เรียกได้ว่า สวยและสมบูรณ์สุดๆที่นึงก็ว่าได้ครับ โดยที่บริเวณนี้จะมีปะการังเขากวางอยู่เป็นจำนวนมาก นอกากนั้นยังมี ดอกไม้ทะเล ปะการังอ่อน ปะการังผักกาด อยู่ด้วยครับผม แถบบางจุดยังมีปะการังเขากวางที่เป็นสีฟ้าด้วยนะครับ คือดีงามมาก
นอกจากปะการังจำนวนมหาศาล อีกอย่างที่พลาดไม่ได้เลยบรรดาฝูงปลา และเหล่าสัตว์น้ำต่างๆที่พากันมาต้อนรับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น ปลาการ์ตูนแดงดำหรือเจ้าปลานีโม่ ปลาสินสมุทรลายฟ้า ปลานกแก้ว กั้งตั๊กแตนเจ็ดสี หมึก และอื่นๆอีกมายมาก
หลังจากที่ดำน้ำดูปะการังกันเสร็จแล้วก็ถึงเวลาบอกลาท้องทะเลกันละครับ โดยกิจกรรมต่างๆจะจบที่เวลาประมาน 15.30 แล้วขึ้นเรือกลับถึงที่ประเทศไทยเวลา 17.00 ถือเป็นอันจบทริป อย่างมีความสุขครับผม
จบไปแล้วครับ สำหรับเกาะค๊อกเบิร์น บอกได้เลยว่า เกาะค๊อกเบิร์นนี้เป็นเกาะที่อุดมไปด้วยธรรมชาติ ที่รอให้ทุกคนได้มาสำรวจจริงๆ ไม่ว่าจะเป็น หาดทรายขาวนุ่มละมุน น้ำทะเลที่ใสสะอาด บรรยากาศที่ร่มรื่นและเงียบสงบ บรรเหล่าปะการังหลากหลานสายพันธุ์และฝูงปลาจำนวนมาก เรียกได้ว่าเป็น 1 day trip ที่คุ้มค่ามากๆ และได้ประสบการณ์ที่หลากหลายมากเลยทีเดียว ถ้าคิดะเที่ยวทะเลสวยๆ น้ำใสๆ ยังไงก็อย่าลืมชื่อ เกาะค๊อกเบิร์น นะคร๊าบ
รีวิวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
1.รีวิวเที่ยวระนอง 4 วัน 3 คืน แนะนำที่เที่ยว ที่พัก และร้านอาหาร
2.รีวิว ไประนอง เที่ยวทะเลพม่า ที่หมู่เกาะ COCK BURN!!
3.รีวิวเที่ยวเกาะนาว โอ พี – Nyaung Oo Phee Island ทะเลพม่า กับ Love Andaman