“ลำปาง” จุดหมายปลายทางของทุกความฝัน…
สวัสดีครับชาวมนุษย์เงินเดือนที่น่ารักทุกท่าน เมื่อวันที่ 23-25 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แอดมินได้มีโอกาสไปแอ่วเหนือ เที่ยวนครลำปาง กัน 3 วัน 2 คืนกันเลยทีเดียว และถือเป็นการเที่ยวลำปางครั้งแรกของ แอดมินเช่นกัน โดยส่วนตัวก่อนเดินทางก็ไม่ได้คาดหวังกับที่นี่มาก เพราะคิดว่าไม่น่าจะแตกต่างจากเมืองเหนืออื่น ๆ ซักเท่าไหร่ แต่พอได้ไปสัมผัสด้วยตัวเองแล้วเกินคาดครับ เป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะมาก ๆ มีวัฒนธรรมที่เก่าแก่ ตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 วัดวาอารามต่าง ๆ เก่าแก่และงดงามวิจิตร มาก ๆ เป็นเมืองที่หลงใหลในศิลปะ จะเห็นได้จากตามสถานที่ต่าง ๆ ตลาดเก๊าจาว Street art สถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ก็ไม่แพ้กัน บรรยากาศที่บริสุทธิ์ อาหารที่แสนอร่อย ทั้งอาหารไทยทั่วไปและอาหารท้องถิ่น ที่สำคัญราคาเป็นกันเองมาก ๆ ครับ ถือเป็นเมืองผ่าน ที่ไม่ควรผ่านครับ แวะมาซักครั้งแล้วคุณจะหลงรักเมืองนี้ครับ ❤️
แผนการเดินทาง
Day1 23 /11/2018
- เดินทางจากสนามบินดอนเมือง – สนามบินลำปาง สายการบินนกแอร์
- รับประทานอาหารเช้าที่ร้านข้าวต้ม ร้านป้อก๋วยจั๊บ บริเวณสถานีรถไฟ ลำปาง
- เดินทางแวะชมตลาดเก๊าจาว และสะพานดำ เก่าแก่ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
- เดินทางเข้าที่พัก โรงแรมเวียงลคอร ลำปาง
- พักรับประทานอาหารเที่ยง ณ โรงแรมที่พัก
- วัดพระธาตุลำปางหลวง
- วัดพระธาตุดอยพระฌาน
- รับประทานอาหารเย็น ที่ร้าน ปางหลวงการ์เด้นท์
- กลับที่พัก และพักผ่อนตามอัธยาศัย
Day2 24 /11/2018
- เยี่ยมชม อินทราเอาท์เลท (โรงงานผลิตและจำหน่ายเซรามิก)
- รับประทานอาหารเที่ยงที่ไร่ภูมิสิทธิ์ พร้อมลองทานข้าวไรเบอรี่ปลูกเอง และกาแฟคั่วโองที่หอมเกินห้ามใจ
- อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน กิจกรรมแช่น้ำอุ่นผ่อนคลาย และลวกไข่น้ำพุร้อน
- รับประทานอาหารเย็นที่ร้าน ข้าวต้มอร่อยบาทเดียว
- ชอป ชิม ชิวที่ กาดกองต้า (ตลาดนัดกลางคืน)
- เดินทางกลับที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย
Day3 25 /11/2018
- นั่งรถม้าชมเมืองชุมชนท่ามะโอ ถนนสายวัฒนธรรม ฯลฯ
- บ้านเสานัก,บ้านหลุยส์
- Street Art
- รับประทานอาหารเที่ยง ณ ร้านอาหารครัวมุกดา
- เดินทางกลับกรุงเทพฯ สนามบินลำปาง – ดอนเมือง สายการบินนกแอร์
ว่าแล้วเรามาเริ่มต้นกันที่สถานที่ท่องเที่ยวกันดีกว่าว่า 10 สถานที่ที่ลำปางมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด ตามด้วยร้านอาหารขึ้นชื่อ และปิดท้ายด้วยที่พักครับ
10 สถานที่ท่องเที่ยวเมืองลำปางที่ไม่ควรพลาด
-
วัดพระธาตุลำปางหลวง ♥
-
วัดพระธาตุดอยพระฌาน ♥
-
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ♥
-
กาดกองต้า (ตลาดนัดกลางคืน) ♥
-
กาดเก๊าจาว (ตลาดเช้า) ♥
-
สะพานดำ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ♥
-
นั่งรถม้าชมเมือง ♥
-
Street Art ♥
-
บ้านเสานัก,บ้านหลุยส์ ♥
-
อินทราเอาท์เลท♥
1.วัดพระธาตุลำปางหลวง ♥
Location : คลิก
วันเวลาทำการ : ทุกวันเวลา 07:30-17:00 น.
วัดพระธาตุลำปางหลวง เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดลำปางเลยทีเดียวครับ ซึ่งสร้างในสมัยพระนางจามเทวี อายุรวม ๆ ก็ราว ๆ พันปีครับ ยาวนานมากทีเดียว จึงเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์ค ของที่นี่ที่ไม่ควรพลาด ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวก็เวียนมาสัการะอย่างไม่ขาดสาย ทั้งในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างถิ่น
ที่นี่ก็ยังถือพระธาตุประจำปีเกิดของคนปีฉลูด้วย ถือเป็นมรดกศิลปะล้านนาที่ล้ำค่าที่อยากให้ลองมาสัมผัสและได้สัการะเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตครับ
เอกลักษณ์ของวัดนี้ก็เริ่มตั้งแต่ทางเข้าเลยครับ เป็นลักษณะประตูโขงซึ่งมีการก่ออิฐ ปูน เป็นซุ้มยอดแหลมเป็นชั้น ๆ ตกแต่งด้วยลวดลาย และรูปปั้นสัตว์ในหิมพานต์ ต่าง ๆ ประตูโขงแห่งนี้ใช้เป็นตราสัญลักษณ์ของจังหวัดลำปางอีกด้วยครับ
พอเข้ามาด้านในก็จะเจอในส่วนของ วิหารหลักคือวิหารแต้ม ถือเป็นวิหารไม้ที่มีความเก่าแก่ และงดงามสมบูรณ์มาก ๆ ครับ ภายในวิหารมีการแต่งแต้มด้วยลวดลายสมัยล้านนาที่มีความงดงามมาก ๆ ภายในยังมีพระพุทธรูปสัมริดปางมารวิชัย ให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชา เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจมายาวนาน
ถัดมาด้านหลังก็จะเจอ หอพระพุทธ เป็นสถาปัตยกรรมก่ออิฐทรงสี่เหลี่ยม ฐานเจดีย์สร้างครอบรอยพระพุทธบาทไว้ สร้างขึ้นสมัยเจ้าหาญแต่ท้อง เมื่อปี พ.ศ. 1992 ภายในมองเห็นแสงหักเห ปรากฏเป็นเงาพระธาตุและพระวิหารในด้านมุมกลับ แต่มีข้อห้ามไม่ให้ผู้หญิงขึ้น
ด้านข้างก็จะเป็นวิหารไม้อีกหลังที่ประดิษ์ฐานพระพุทธรูป ที่มีความเก่าแก่ และสวยงามมาก ๆ ครับ
นอกจากวัดที่เก่าแก่แล้ว บริเวณรอบ ๆ อีกที่ก็ยังมีต้นไม้ที่เก่าแก่ มีการใช้ไม้ค้ำจุนต้นไม้เพื่อ ไม่ให้ต้นไม้เอนล้มและเพื่อเป็นสิริมงคลตามความเชื่อของที่นี่
2.วัดพระธาตุดอยพระฌาน ♥
Location: คลิก
วันเวลาทำการ : 06:30-17:00 น. ทุกวัน
วัดพระธาตุดอยพระฌาน วัดนี้เป็นวัดที่ผมชอบเป็นการส่วนตัวครับ เป็นวัดที่ไม่ใช่มาเที่ยววัด แต่ยังได้สัมผัสกับธรรมชาติ วิวรอบดอย ที่ได้ชมวิวธรรมชาติ และชุมชนเมืองลำปางรอบ ๆดอย วัดนี้ตั้งอยู่บนยอดดอยพระฌาน ภายในวัดร่มรื่นและงดงามด้วยศิลปะที่ขอบอกว่าสวยงามวิจิตรศิลป์ และล้ำสมัยมาก ๆ ครับ ถ้าหากใครมาในช่วงฤดูหนาว หากได้ขึ้นมาบนดอยพระฌานในเวลาเช้ามืด ก็จะได้ชมหมอกปกคลุมสุดลูกหูลูกตาครับ มาลำปางแล้วอย่าลืมแวะมาวันนี้นะครับ
ว่าแล้วก็มาชมวิว และความงามของวัดนี้กันครับ
3.อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ♥
Location: คลิก
วันเวลาทำการ: 08:00-17:00 น.ทุกวัน
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน เป็นอีกสถานที่ที่ควรมาเป็นอย่างยิ่งครับ เพราะที่นี่เค๊ามีแหล่งธรรมชาติมากมายให้ได้เที่ยวชม และพักผ่อนหย่อนใจ อย่าง ออนเซน ไปกับน้ำพุร้อน ลวกไข่ ที่ใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็ได้ทานกัน มีน้ำตกไหลผ่านให้เล่น กันเย็นฉ่ำ แนะนอกจากนี้ ที่นี่ยังมีที่พักรองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วยนะครับ และช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ของทุกปี จะเป็นช่วงดอกเสี้ยวบาน บนเส้นทางแจ้ซ้อน-บ้านป่าเหมี้ยงครับ
พร้อมแล้วตามไปชมความสวยงามของ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนกันครับ
ที่นี่ไม่ได้มีแค่น้ำพุร้อนนะครับ มีน้ำตกหลายสายไหลผ่านอีกด้วย อีกทั้งยังมีที่พัก และ ออนเซน รองรับนักท่องเที่ยวด้วยครับ
บรรยากาศการออนเซน แช่น้ำอุ่น ผมก็ลองดูแล้วรู้สึกผ่อนคลายมาก ๆ ครับ
4.กาดกองต้า ( ถนนคนเดินกลางคืน) ♥
Location: คลิก
วันเวลาทำการ : เฉพาะ วันเสาร์ อาทิตย์ เวลา 17:00-22-00 น.
กาดกองต้า ถนนคนเดินของเมืองลำปาง ถือเป็นแหล่งชอป ชิม ชิล ชื่อดังของเมืองลำปางครับ ที่นี่มีสินค้าหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ทั้งท้องถิ่น และทั่วไป สินค้าแฮนด์เมด เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของตกแต่ง การแสดงพื้นเมือง ฯลฯ ราคาก็สบายกระเป๋า เหมาะกับทุกเพศทุกวัยจริง ๆครับ มาได้ทั้งครอบครัวครับ
5.กาดเก๊าจาว (ตลาดเช้า) ♥
Location: คลิก
วันเวลาทำการ: 04:00-10:00 น. ทุกวัน
ตลาดเก๊าจาวหรือตลาดรัตน์ ส่วนใหญ่คนพื้นที่จะเรียก “กาดเก๊าจาว” เป็นตลาดที่มีความเก่าแก่ เป็นร้อยปี ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เลยทีเดียวครับ ที่มาของชื่อตลาดคือ ในอดีตพื้นที่บริเวณดังกล่าวมีต้นขะจาวสูงใหญ่ ประชาชนจึงเรียกตามชื่อต้นไม้ เพราะสังเกตเห็นชัด จึงกลายเป็นแหล่งค้าขายอาหาร และสินค้า นานาชนิด เริ่มตั้งแต่ยุคแรกๆเป็นช่วงเริ่มสร้างทางรถไฟ จะเป็นตลาดเล็กๆ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ในช่วงสงครามโลก ก็เปลี่ยนเป็นกระเบื้องดินขอ และวิวัฒนาการมามุงด้วยกระเบื้องซีเมนต์บนห้องแถวไม้สองชั้นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
อันนี้เป็นก้านตาลที่คุณลุงนำมาดัดแปลงเป็นที่ยืดเส้น น้ำหนักเบา และทนทานครับ ถ้าผ่านมาก็อย่าลืมแวะมาอุดหนุนคุณลุงนะครับ
มีสาธิตให้ดูด้วย
อาหารพื้นบ้านมีมากมายให้เลือกครับ ทั้งพืชผักสวนครัว และอาหารสำเร็จรูป
บริเวณตลาดก็มีที่ให้ถ่ายรูปมากมาย เล่าเรื่องราววิธีชีวิตชาวบ้านผ่านรูปวาด เป็นเมืองแห่งศิลปะจริง ๆ
6.สะพานดำ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ♥
Location: คลิก
สะพานดำ (ใกล้ ๆ กันกับตลาดเก๊าจาว) เป็นสะพานที่สร้างสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 มีความเก่าแก่มาก ๆ ครับ และยังใช้งานอยู่ มุ่งสู่สถานีรถไฟบ่อแฮ้ว ไปจนถึงเชียงใหม่ ช่วงนั้นญี่ปุ่นเข้ามาเพื่อเคลื่อนพลผ่านประเทศไทย และได้ตั้งกองบัญชาการที่ลำปาง เข้าทำการยึดอาคารสถานที่ มีการทิ้งระเบิดโจมตีเพื่อตัดเส้นทางการคมนาคม และทำลายพื้นชุมชน ทำให้ชาวบ้านทาอำพราง บ้านอาคาร เพื่ออำพรางไม่ให้โดนระเบิด สะพานรถไฟก็เช่นกัน จึงมีการเรียกว่าสะพานทำเป็นต้นมา
7.นั่งรถม้าชมเมือง ♥
เวลาทำการ : หน้าศาลากลางหลังเก่า 06:00-16:00 น. หน้าโรงแรมทิพย์ช้างลำปาง โรงแรมเวียงลคอร และโรงแรมลำปางเวียงทอง 06:00-23:00 น. ทุกวัน ติดต่อโทร. : 054 219 255
นั่งรถม้าชมเมืองลำปาง เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองลำปาง เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ใครที่มาเที่ยวลำปางถ้าไม่ได้นั่งรถม้าชมเมืองถือว่ามาไม่ถึงนะครับ ฮ่าาา นั่งเล่นเที่ยวชมเมืองซักรอบโดยเส้นทางจะพาผ่านทั้งบ้านเรือนตึกแถวเก่าแก่ และสถานที่สำคัญต่างๆ ของเมืองลำปาง มีให้เลือกทั้งรอบเล็ก รอบใหญ่ หรือแล้วแต่จะตกลงกับคนขับ 1 รอบจะอยู่ที่ 20-40 นาที ราคาต่อรอบเริ่มต้นที่ 300 บาท ครับ
8.Street Art ♥
Location: คลิก
Street Art ลำปาง เป็นอีกสถานที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ที่ต้องผ่านมาแวะมาเพื่อที่จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกและยังได้ชมความสวยงามของจิตกรรมศิลปะบนกำแพง โดยเป็นภาพแนวอาร์ต ๆ และสอดแทรกเอกลักษณ์ของเมืองลำปางลงในภาพวาดได้อย่างสวยงาม Street Art จะอยู่แถวกำแพงทางลงสะพานรัษฎาภิเศก ริมแม่น้ำฝั่งกาดกองต้า และริมแม่น้ำฝั่งหลังจวนผู้ว่าฯ ตลอดเส้นทาง ครับ
9.บ้านเสานัก,บ้านหลุยส์ ♥
บ้านเสานัก
Location บ้านเสานัก: คลิก
บ้านเสานัก (นัก ภาษาเหนือ แปลว่ามาก ) เป็นบ้านเก่าแก่ของคหบดีพ่อค้าชื่อ “หม่องจันโอง” สร้างขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ.2438 (123ปี) ลักษณะเป็นบ้านไม้สักโบราณ ศิลปะพม่าผสมล้านนา มีเสาเรือนถึง 116 ต้น เยอะมากครับ และลักษณะที่โดดเด่นของบ้านเสานัก ทำให้อาจารย์จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง ได้มาศึกษาและถ่ายภาพนำไปอ้างอิงเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมล้านนา นอกจากนั้นบ้านแห่งนี้ ยังเป็นสถานที่ดูงานของนักศึกษาสถาปัตยกรรมจากหลายสถาบัน จนทำให้ชื่อเสียงของบ้านเสานักเป็นที่รู้จักในหมู่สถาปนิก และเป็นที่ศึกษา และเยี่ยมชม ของเหล่านักท่องเที่ยว และเยาวชนรุ่นหลัง
บ้านหลุยส์
Location บ้านหลุยส์ คลิก
บ้านหลุยส์ ถัดมาจากบ้านเสานักประมาณ 500 เมตร ก็จะเจอ บ้านหลุยส์ ที่ตั้งเด่นตะง่าน ดูมีความเก่าแก่ และยังคงอนุรักษ์ไว้ เอาตรง ๆ นะผมเข้ามาครั้งแรก แล้วขนลุก แบบบอกไม่ถูก และยิ่งได้ยินว่ามีออกข่าวถ่ายติดวิญญาณ และเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีที่นี่ยิ่งไปกันใหญ่แต่ท้ายสุดเราไม่ได้ได้ลบหลู่ เรามาเพื่อศึกษาวัฒนธรรม ท่องเที่ยว และมาตอนกลางวัน ฉะนั้น ถ่ายรูปต่อได้ครับ ฮ่าาา
มาต่อกันที่ประวัติบ้านหลังนี้นิดนึง อันนี้ผมสนใจเป็นพิเศษเลยหาข้อมูลมาแปะไว้ครับ บ้านหลุยศ์นั้นถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2448 (113 ปี) โดยมีนายหลุยส์ ที เลียวโนเวนส์ เป็นเจ้าของบ้าน ชาวอังกฤษที่เข้ามาทำการค้าในไทยช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งลูกชายแหม่มแอนนา เลียวโนเวนส์ ครูสอนภาษาอังกฤษในราชสำนักสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโดยขณะนั้น หลุยส์ มีอายุเพียง 29 ปี ก็ได้แต่งตั้งเป็นผู้ดูแลการบุกเบิกกิจการป่าไม้สักในภาคเหนือ ก่อนจะมาอยู่ลำปางในปี 2445 แล้วได้ตั้งบริษัทหลุยส์ ที เลียวโนเวนส์ ในปี 2448 เพื่อทำกิจการเกี่ยวกับไม้สัก จากนั้นในปี 2462 หลุยส์ได้เสียชีวิตที่อังกฤษ และบริษัทของเขาได้รวมกิจการเข้าเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท Getz จากนั้นในปี 2482 กรมป่าไม้ได้รับมอบโอนกิจการทำไม้ของบริษัท บริติช บอร์เนียว จำกัด และ บริษัทแอล. ที. เลียวโนเวนส์ จำกัด มาเป็นสมบัติของรัฐ ก่อนที่บ้านหลุยส์จะมาอยู่ในความดูแลขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ภาคเหนือบนจนถึงทุกวันนี้ ครับ
ที่มาข้อมูล : ข่าวสดออนไลน์
นี่คือ คฤหาสน์ของเศรษฐีเมื่อสมัยร้อยกว่าปีที่แล้วครับถ้าสมัยนั้นคนธรรมดาทั่วไปจะมีบ้านได้หลังใหญ่ขนาดนี้ถือว่ายากครับ
10.อินทราเอาท์เลท♥
Location: คลิก
วันเวลาทำการ : 09:00-17:30 น. ทุกวัน
และแล้วก็มาถึงสถานที่สุดท้ายของสถานที่ท่องเที่ยว ก่อนจะไปต่อกันที่ร้านอาหารเด็ด ๆ ที่ไม่ควรพลาดกันครับ
อินทราเอาท์เลท เป็นแหล่งชอปปิ้งที่ได้ราคาพิเศษ คือราคาโรงงานเพราะเค๊ามีโรงงานผลิต และพร้อมจัดจำหน่ายที่นี่ที่เดียว ส่งออกไปทั่วโลกถึง 60% ส่วนใหญ่จะไปทางฝั่งยุโรป และอเมริกา สินค้ามีหลายเกรด และหลายราคาให้เลือกมากมายหลากหลายคอลเลคชั่น และได้ผสมผสานลวดลายล้านนากับความทันสมัยได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีที่ให้เที่ยวชมและถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก อย่างถ้วยตราไก่ยักษ์ เสาหลักกิโกเมตร หรือพีระมิด กาน้ำเซรามิค ที่ตั้งอยู่ภายนอก ด้านข้างของโรงงาน ถ้าได้ผ่านไปอย่าลืมแวะกันนะครับ สินค้ามีหลากหลาย มีคุณภาพ และราคาถูกพิเศษครับ
สถานที่อื่น ๆ ของเมืองลำปาง
ร้านอาหาร จานเด็ด และ cafe ณ ลำปาง ที่ไม่ควรพลาด
หลังจากที่ได้รีวิว แนะนำ 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดแล้ว มาดูสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยจริง ๆ คือสถานที่ “กิน” ครับ
แน่นอนว่าไปที่ไหน เราก็อยากจะรู้ว่าร้านเด็ดของที่นั่น มีที่ไหนบ้าง ว่าแล้วก็ตามไปดูกันเลยครับ
1.ร้านป้อก๋วยจั๊บ
Location: คลิก
วันเวลาทำการ : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05:30-10:00 น.
สำหรับร้านแรก ที่จะแนะนำร้านนี้เลยครับ ป้อก๋วยจั๊บ ร้านนี้เป็นร้านแรกที่ได้ลองทาน เมื่อถึงลำปาง รสชาติ เด็ดตรงน้ำซุปครับ เข้มข้นมาก แทบไม่ต้องปรุง พร้อมเครื่องที่ครบแบบทานแล้วจุกไปทั้งเช้า
ร้านนี้เปิดเฉพาะช่วงเช้านะครับ ร้านจะติสถานีรถไฟลำปางเลย ถ้าว่างก็แวะมาทานได้ครับผม
ราคาก็ไม่แพง เริ่มตั้งแต่ 40 บาท พิเศษ 50 เพิ่มเครื่องได้อีก
2.ร้านอาหารวาสนาไร่หญ้าแจ้ซ้อน(ไร่ภูมิสิทธิ์)
*มีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟคั่วโอง และที่พักรีสอร์ต ถือว่าครบมากครับ
Location: คลิก
วันเวลาทำการ : ทุกวัน 07:00-20:00 น.
ถัดมาก็จะเป็น ร้านอาหาร วาสนาไร่หญ้าแจ้ซ้อน(ไร่ภูมิสิทธิ์) อย่างที่ผมบอกข้างต้น ถ้ามาที่นี่ก็ถือว่าครบทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และที่พักสบาย ๆ สัมผัสกับธรรมชาติเต็ม ๆครับ เริ่มกันที่ร้านอาหารกัน ที่นี่เค๊าจะมีเอกลักษณ์เฉพาะคือ พืชผักที่นี่จะมาจากไร่ล้วน ๆ ครับ ปลูกเองทำอาหารเอง อย่างเช่นข้าวไรซ์เบอรรี่ ก็ปลูกเอง ผมนี่ไม่พลาดที่จะลองทานครับ
มีอีกจานที่เด็ดคือ ยำไข่ออนเซ็นครับ ผมจะชอบเป็นพิเศษ ถ้ามีโอกาสมาอยากให้มาลองทานกันครับ
3.ร้านกาแฟคั่วโอ่ง ไร่ภูมิสิทธิ์
*พื้นที่เดียวกันกับ วาสนาไร่หญ้าแจ้ซ้อน
เดินมาอีกหน่อยก็จะเจอร้านกาแฟ คั่วโอ่งครับ ซึ่งจากรูปคือกาแฟ ที่คั่วด้วยโองซึ่งจะมีความหอมเป็นพิเศษ พร้อมกับรับบรรยากาศแบบธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ได้ที่นี่ครับ
4.สวนอาหารปางหลวงการ์เด้น
Location: คลิก
วันเวลาทำการ :ทุกวัน เวลา 10:00- 23:00 น.
สวนอาหารปางหลวง ที่นี่ถือเป็นสวนอาหารที่ใหญ่ที่สุดในลำปางเลยก็ว่าได้ครับ เพราะที่ทั้งกว้างขวาง สวยงาม บรรยากาศดีละอาหารอร่อย แถมยังมีสวนสัตว์ย่อม ๆ ที่มีทั้งนกยูง นกแก้ว กระต่าย แกะแพนด้า ฯลฯ ให้เด็ก ๆ ได้ดูอีกด้วย ยังไม่พอยังมีที่พัก รีสอร์ตอีกด้วย เมนูมีทั้งอาหารไทย และอาหารยุโรป แบ่งเป็นทั้งหมด3โซน ได้แก่ โซนแพ โซนระเบียง โซนห้องแอร์ มีให้เลือกหลากหลาย เหมาะแก่การจัดงานเลี้ยง สังสรรค์ และราคาก็ไม่แพงครับ
5. ข้าวต้มอร่อยบาทเดียว
Location: คลิก
วันเวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 16:00-00:00 น.
ร้านข้าวต้มอร่อยบาทเดียว ก็เป็นอีกร้านชื่อดังของที่นี่ครับ จากรูปจะเห็นได้ว่าลูกค้าเยอะมาก แทบจะไม่มีที่นั่งกันเลยแต่ละวัน ลักษณะร้านจะดูเก่าแก่ คลาสสิค อาหารก็จะออกแนวพื้นเมืองหน่อย ๆ และก็คล้าย ๆ กับร้านข้าวต้มทั่วไปที่เราเคยทาน ที่เปิดช่วงเย็น จนถึงเที่ยงคืนเลยครับ หลังทานเสร็จ ถ้าเป็นช่วงเสาร์ อาทิตย์ ก็เหมาะที่จะเดินชอป ชิล ชิม ที่ถนนคนเดิน กาดกองต้า ต่อ เพราะอยู่ใกล้ ๆ กันนั่นเองครับ
6. ครัวมุกดา
Location: คลิก
วันเวลาทำการ : ทุกวัน เวลา 08:00-15:00 น.
ครัวมุกดา ปิดท้ายกันที่ร้านนี้ครับ ร้านนี้จะเด่นในเรื่องของขนมจีนน้ำยา ที่มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำยากะทิ น้ำยาป่า น้ำยาแกงเขียวหวาน และอื่น ๆ เวลาทานก็จะแปลกกว่าที่อื่น ๆ เพราะที่นี่เค๊าทำไว้ให้เป็นคำ ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการรับประทานนั่นเองครับ นอกจากขนมจีน ก็ยังมีอาหารอื่น ๆ เช่นกันไม่ว่าจะเป็นอาหารเวียดนาม ไทยกลาง พื้นบ้าน และยังมีสินค้าอื่น ๆ ไว้สำหรับซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมืออีกด้วยครับ
ที่พัก
หลังจากจบไประหว่างสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารต่าง ๆแล้ว ก็มาปิดท้ายกันที่ โรงแรมที่ผมพักกันครับ มาดูว่าที่ลำปาง นอกจากที่พักที่ใกล้ชิดธรรมชาติแล้ว หากอยากพักที่ใกล้ๆเมือง เดินทางสะดวกเป็นงั้นมาดูที่นี่กันครับ
โรงแรมเวียงลกอร
Location: คลิก
Website: http://lampangwienglakor.com/
สามวันสองคืน ผมพักที่นี่ครับ โรงแรมเวียงลกอร โรงแรมนี้ถือเป็นโรงแรมอันดับต้น ๆ ของลำปางเลยก็ว่าได้ครับ อยู่ในเขตตัวเมือง และเดินทางสะดวกห้องสะอาด และบริการดีเยี่ยมครับ ว่าแล้วไม่รอช้าเรามาสำรวจบริเวณโดยรอบและห้องพักของที่นี่กันครับ
เริ่มจากบริเวณรอบ ๆก่อนนะครับ
หลังจากสำรวจเรียบร้อยแล้ว เรามาสำรวจภายในห้องพักกันครับ ตามมาดูกันเลย
ห้องน้ำสะอาดมากครับ มีอ่างน้ำด้วย
จบไปแล้วครับสำหรับทริป ลำปาง 3 วัน 2 คืน การเดินทางรอบนี้ก็มี น้องนกน้อย พาเราบินทั้งขาไปขากลับ และเป็นครั้งแรกที่ลองนั่งเครื่องบินเครื่องเล็กแบบนี้ ก็สนุกอีกแบบนะครับ
หมดเวลาสนุกแล้วครับต้องกลับไปใช้ชีวิตปกติ คือทำหน้าที่มนุษย์เงินเดือนต่อไป ทำงานหนักได้แต่อย่าลืม ออกไปเที่ยวเพื่อผ่อนคลาย ทั้งกาย และใจ เพื่อให้กลับมาแล้วมีแรง และกำลังใจในการทำงานต่อไปนะครับ
ลำปางเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่ผมประทับใจมาก ๆ ครับ เกินคาดจากที่คิดไว้มาก เคยได้ยินตั้งแต่เด็ก ๆ ในทีวี หรือที่เค๊าล้อกัน ว่า “ลำปางหนาวมาก” แต่วันนี้ได้มาสัมผัสด้วยตัวเองซะที หนาวจริง ๆ ครับ หนาวในเรื่องของความ คูลในสถานที่เที่ยวต่าง ๆ ที่มีหลากหลาย และยังคงอนุรักษ์ความงาม ความเก่าแก่ของสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ยังคงมีอยู่ธรรมชาติที่บริสุทธิ์ อาหารที่ขึ้นชื่อ และแสนอร่อย ขอบอกเลยว่า ลำปางจะไม่ใช่เมืองผ่านอีกต่อไป เพราะคือปลายทางของทุกความฝันของทุกคนครับ สำหรับใครที่ยังไม่เคยไป แนะนำลองไปซักครั้งครับ แล้วคุณจะหลงรัก ” ลำปาง”