เที่ยวลพบุรี…สวัสดีครับทุกท่าน หลังจากที่แอดได้มีโอกาสไปเที่ยวลพบุรี ครั้งแรกมาแล้ว ก่อนหน้าที่รู้แค่ข้อมูลคร่าว ๆ ว่า จ. ลพบุรี คือเมืองลิง และมีวังพระนารายณ์ที่ดัง ๆ จากละครเรื่องบุพเพสันนิวาส หลายคนที่ยังไม่เคยไป อาจจะคิดเช่นเดียวกับผมครับ แต่หลังจากที่ได้ไปสัมผัส นอกจากที่กล่าวมา ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกมากมาย ที่หลายคนยังไม่เคยได้ไป ไม่ว่าจะเป็นเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ วัดชื่อดังต่าง ๆ ฟาร์มแบบโฮมสเตย์ที่คนไทยไม่ค่อยรู้จัก แต่คนต่างชาติรู้จักเยอะ และขอบอกว่า คาเฟ่ ที่นี่ ดีงามมาก ๆ บรรยากาศ เหมาะแก่การมาพักผ่อนจริง ๆ ครับ ที่สำคัญลพบุรี ก็ไม่ไกลจาก กรุงเทพมาก ขับรถส่วนตัว หรือรถประจำทางประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึง ไปกลับก็ยังไหว หากอยากเลี่ยงรถติด คนเยอะ แนะนำไปวันธรรมดาดีกว่าครับ จะได้ชิว ยิ่งกว่าเดิมครับผม
นอกจากนี้ยังมีที่อื่น ๆ อีกมากมายที่แอดยังไปไม่ครบ แต่จะขอยก มา 10 สถานที่ที่แอดไปมาและบอกเลยว่าต้องแวะไปชิว ชม และชิมซักครั้งครับ
เที่ยวลพบุรี 10 สถานที่เชคอินเก๋ ๆ ที่ไม่ควรพลาด เอาใจสายชิว :ชม : ชิม
10 สถานที่เชคอินเก๋ ๆ ที่ต้องแวะไปชิว ชม ชิม
♥ Check in 1 สบายดี คาเฟ่
♥ Check in 2 ไร่ทรัพย์ประยูร
♥ Check in 3 About Coffee Garden
♥ Check in 4 วัลลภาฟาร์มสเตย์
♥ Check in 5 เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
♥ Check in 6 รางรถไฟลอยน้ำ
♥ Check in 7 พระนารายณ์ราชนิเวศน์
♥ Check in 8 บ้านหลวงรับราชทูตหรือบ้านวิชาเยนทร์
♥ Check in 9 พระปรางค์สามยอด
♥ Check in 10 กลุ่มทอผ้ามัดหมี่ ศูนย์การเรียนรู้ครูภูมิปัญญาไทย
แถม
♥ Check in ที่พัก โรงแรมเค.พี.เพลส ลพบุรี
♥ Check in ร้านอาหาร ร้านตาเม็ดปลาตะเพียนไร้ก้าง
มาเริ่มสายชิวสายแรกกันก่อนดีกว่าครับ เดินทางเหนื่อย ๆ ต้องแวะพักผ่อนไปกับคาเฟ่เก๋ๆ ตามแบบฉบับ จ. ลพบุรีกันครับ มีที่ไหนบ้างไปดูกันครับ
♥ Check in 1
สบายดี คาเฟ่
พิกัด : https://goo.gl/maps/AbzGd6nUJxq
วันเวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 น. – 2 1.00 น. ร้านหยุดทุกวันจันทร์ที่ 2 ของเดือน
สำรองที่นั่ง และห้องพักโทร : 086 552 4420
มาเริ่มต้นกันที่ สถานที่แรกกันครับ ที่นี่เรียกว่า สบายดี คาเฟ่ ครับ เป็นคาเฟ่ผสมผสาน เชิงเกษตรเที่ยวที่เดียวจบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ เครื่องดื่มอื่น ๆ ขนมหวาน อาหาร ที่พักก็มีด้วยนะจ๊ะ ที่เช็คอิน จุดถ่ายภาพสวยๆ เยอะมาก ออกแนวลูกทุ่ง ๆ แบบโมเดร์ิน ๆ ที่พักสไตล์อฟท์ แต่ราคาไม่ถึงพัน รอบ ๆ มีแปลงข้าว เถียงนาพักผ่อน มีแปลงผักสวนครัวและเป็ดไก่ ให้ได้ชมกันอีกด้วย สรุปคือ สวยทุกมุมครับ หากข้างนอกร้อนด้านในก็เป็นห้องแอร์ให้นั่งสบายๆ อีกด้วยครับ
เหมาะแก่การมาพักผ่อน นั่งชิวกันมาก ๆ ไม่ว่าจะพาครอบครัว เพื่อนฝูง หรือพาแฟนมาสวีทก็ยังได้นะครับ
ว่าแล้วเดี๋ยวแอดจะพาไปสำรวจคาเฟ่แห่งนี้กันครับ ตามมากันเลยย….
ถ้าขับรถ หรือนั่งรถมาตามพิกัดที่แอดแปะไว้ให้ ร้านจะอยู่ติดถนนเลยครับ ทางเข้าก็จะมีแยกเป็นสองฝั่งคือ ฝั่งที่เป็นห้องแอร์ กับฝั่ง ทุ่งนาสบายดี เห็นแบบนี้แอดก็เลี้ยวขวาเลยครับ ขอไปเดินชมฝั่งทุ่งนาสบายดีก่อนละกัน
เห็นเถียงนา และนาข้าวแบบนี้แล้ว มันใช่เลยอะ เหมาะแก่การนอนพักผ่อน นอนชิวมาก ๆ
ระหว่างทางเดินไปเถียงนาน้อย ก็จะมีซุ้มพืชผักสวนครัว ดูผสมผสานเหมือนแปลงผักแนวท้องนา และแปลงเกษตร
มีหุ่นไล่กาด้วยนะจ๊ะ
เครื่องดื่มที่นี่ไม่ได้มีแต่กาแฟนะจ๊ะ อิตาเลียนโซดาก็มา
ผมก็ขอจัดน้ำแตงโม ไปซัก 1 แก้ว เพื่อความสดชื่น พร้อมชมวิวแบบท่องทุ่ง
ระหว่างรออาหาร ขอพัก นอนชิวซักแป๊บนะครับ
หิวแล้วครับ ขอจัดมื้อเที่ยงที่นี่ก่อนเลยละกันนะครับ
อาหารที่นี่ก็มีหลากหลาย ให้เลือกครับ ไม่ว่าจะเป็น ต้ม ผัด แกง ทอด จะอาหารทะเล หรืออาหารพื้นบ้านก็มีให้เลือกมากมายครับ ส่วนรสชาติโดยส่วนตัวถือว่าใช้ได้ครับ
หลังจากจัดมื้อเที่ยงแบบอิ่มหนำสำราญแล้ว ก็ได้เวลาเดินสำรวจ และถ่ายรูปสวย ๆ บริเวณรอบ ๆ กันครับ
ข้าง ๆ ทางเดินจะเห็นว่าเป็นแปลงผัก พืชสวนครัวแบบผสม เห็นเจ้าหน้าที่บอกว่า ใช้พืชผักที่นี่ด้วย ในการปรุงอาหารของทางร้าน
ด้านหลังก็จะเห็นเป็นสวนมะละกอ ที่มองเห็นสุดลูกหูลูกตา เดินชมได้ไม่เบื่อครับ
เด็ก ๆ ก็นั่งชิงช้าแบบเพลิดเพลินกันไปเลย
อีกฝั่งก็จะเป็นซุ้มเถียงนาเล็ก ๆ ดู private ไปอีกแบบ
เจ้าฝูงเป็ดก็เดินเล่นแบบชิว ๆ เช่นกัน
ชมด้านนอกกันพอแล้ว เดี๋ยวแอดพาไปชมร้านด้านในที่เป็น คาเฟ่ ปรับอากาศกันดีกว่าครับ
บรรยากาศได้ในก็จะให้ความรู้สึกเป็นแนว ลอฟท์ โมเดิร์น ๆ
ลืมไปว่านอกจากประชาชนธรรมดาจะแวะมาพักผ่อน ที่นี่แล้ว เหล่าทหารก็ยังมากันด้วยนะจ๊ะ
ปิดท้ายกันที่ห้องพักครับ ไม่น่าเชื่อว่าที่พักที่นี่พรีเมี่ยม แต่ให้ราคาหลักร้อย มาแล้วอย่ายืมแวะกันนะครับ
♥ Check in 2
ไร่ทรัพย์ประยูร
พิกัด :https://goo.gl/maps/8WXLEH8jTdS2
วันเวลาเปิดปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06.00 น. – 17.00 น.
มาแวะเช็คอินอีกจุดที่ 2 ไร่ทรัพย์ประยูรกันครับ จุดเด่นของที่นี่ต้องบอกว่าเป็นแหล่งผลิตเฟิร์นสไบนางและ ไม้ประดับที่ใหญ่ที่สุดในลพบุรีเลยก็ว่าได้ รูปที่เห็นด้านบนจะบอกว่า ด้านหลังกำลังปลูกเป็นทุ่งดอกดาวกระจาย เสียดายตอนที่ไปทางไร่พึ่งปลูกกัน แนะนำให้มาช่วงปลายปีครับ นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่ กาแฟ และเครื่องดื่ม และอาหารไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วยนะครับ ว่าแล้วตามมาเที่ยวจุดที่ 2 ไปพร้อม ๆ กันครับ
เสียดายมาตอนกำลังปลูกดอกดาวกระจาย ถ้าเต็มท้องทุ่งก็จะได้รูปสวย ๆ กว่านี้ครับ
เดินมาด้านหลังก็จะเห็นเฟิร์นสไบนาง ห้อย ยาวสุดลูกหูลูกตา สลับกับไม้ดอกไม่ประดับ สามารถซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ด้วยนะครับ
เป็นอีกสถานที่ ที่เหมาะสำหรับมาพักผ่อน ชมธรรมชาติ อีกที่ของ จ. ลพบุรี ครับ
นอกจากจะได้พักผ่อน แล้วยังมีชา กาแฟ ขนมหวานไว้รองรับอีกด้วย ที่สำคัญ รสชาติเครื่องดื่มที่นี่ใช้ได้เลยครับ
♥ Check in 3
About Coffee Garden
พิกัด : https://goo.gl/maps/Vim2msCxXZo
วันเวลาเปิดปิด : หยุดทุกวันจันทร์นอกนั้นเปิดทุกวัน
– อังคาร-ศุกร์ 07.00-16.00 น.
– เสาร์-อาทิตย์ 08.00-17.00 น.
Facebook: AboutCoffeeGarden
Website: https://about-coffee-garden.business.site/
โทร 063 597 9291
พูดถึงร้านกาแฟ หรือคาเฟ่ ต้องของยกให้ร้านนี้ ยืน 1 ในเรื่องของรสชาติครับ เพราะเจ้าของร้านเป็นถึงบาริสต้า ที่ผ่านเวทีแข่งขันมาหลายเวที สั่งสมประสบการณ์มากมายก่อนจะมาเปิดร้านเป็นของตัวเอง ภายใต้ชื่อ About Coffee Garden. รสชาติกาแฟที่นี่ต้องบอกว่าดีมาก ๆ ยังรวมไปถึงเครื่องดื่มอื่น ๆ อาหาร ขนมหวานก็อร่อยไม่แพ้กัน ที่สำคัญราคาไม่แพงอีกด้วย ภายในร้านก็จะให้อารมณ์แบบ การ์เด้น สวนต้นไม้ ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในสวน ร้านเล็ก ๆ และอบอุ่นมาก ๆ ครับ
คอกาแฟท้าให้ลองมาชิมครับ แอดขอพาไปชมร้านกันเลยนะครับ
บรรยากาศในร้านให้อารมณ์เหมือนอยู่สวนหลังบ้านจริงๆ ครับ เต็มอิ่มกับออกซิเจนแบบเต็ม ๆ ปอด เพราะต้นไม้เยอะนั่นเองครับ
อาหารที่เสิร์ฟแต่ละอย่าง น่าทานทั้งนั้นเลยครับ รสชาติ ต้องยกนิ้วให้เลย
โดยส่วนตัวผมถูกใจรสชาติกาแฟร้านนี้มาก ๆ ครับ เพื่อน ๆ ก็เห็นตรงกัน ยังไวถ้าแวะมาลพบุรีอย่าลืมมาร้านนี้นะครับ
ติด ๆ กันจะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวนะครับ บรรยากาศที่ร้านดีมากครับ ก๊วยเตี๋ยวชามใหญ่มากก ราคาก็ถูกอีกด้วย
มีแตงโมขายด้วยนะครับ เอ้ยไม่ใช่ มีน้องแตงโมน่ารัก ๆ มาด้วยวันนี้
♥ Check in 4
วัลลภาฟาร์มสเตย์
พิกัด :https://goo.gl/maps/b5YAQfcWo9U2
วันเวลา เปิดปิด: ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
Facebook : Wanlapa Farm
ติดต่อจองที่พัก 082 717 5633
มาถึงจุดที่ 4 กันแล้วนะครับ ที่นี่เรียกว่า “วัลลภาฟาร์ม” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ห่างจากตัวเมืองลพบุรีไปประมาณ 15 กิโลเมตร ที่นี่เป็นฟาร์มสเตย์ ที่ไม่ใหญ่มากอย่างเขาใหญ่หรือที่อื่น ๆ แต่ถือเป็นฟาร์มที่มีกิจกรรมมากมาย และครบครันมาก ๆ ครับ ทั้งสิ่งแวดล้อมให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้าน ตามท้องทุ่ง มีทั้งคาเฟ่ อาหาร รองรับนักท่องเที่ยวมีลานกิจกรรม งานเลี้ยงอีกด้วย พร้อมทั้งมีห้องพักแบบโฮมสเตย์ ที่สามารถมาเที่ยว และพักค้างคืน มีห้องพักไว้บริการจำนวน 8 ห้อง แขกที่ไปพักมีทั้งคนไทยและต่างชาติ นักท่องเที่ยวบางคนมาจากยุโรป มาพักนานเป็นสัปดาห์เพราะต้องการสัมผัสชีวิตความเป็นอยู่ในต่างจังหวัดของบ้านเรา บางคนเป็นชาวต่างชาติที่มาทำงานประจำในกรุงเทพฯ พอมีเวลาช่วงวันหยุดก็เปลี่ยนบรรยากาศจากในเมืองใหญ่ พาครอบครัวไปสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมรองรับเด็กๆ ไม่ว่าจะปั้นดินเหนียว วาดรูป ฝึกขี่ม้า ฯลฯ มาที่นี่ทำให้เด็ก ๆ ที่อยู่ในตัวเมืองได้สัมผัสชีวิตแบบท้องทุ่ง และธรรมชาติ ที่หาไม่ได้ในกรุงเทพ หรือตัวเมืองใหญ่ ๆ
ว่าแล้วไปชมบรรยากาศพร้อม ๆ กันครับ
ลานกิจกรรม สำหรับงานเลี้ยงต่าง ๆ ได้บรรยากาศแบบ ท้องทุ่ง คาวบอยด์ ๆ
มีกิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้ลองฝีมือ จินตนาการ ฝึกสมาธิในการปั้นดินเหนียว บวกกับบรรยากาศแบบท้องทุ่ง ทำให้จินตนาการของเด็ก ๆ สมจริงมากขึ้น นอกจากอยู่ในห้องเรียน
เจ้าหมูน้อยน่ารักมาก ๆ ครับ
มองด้านหลังมีภูเขา ต้นไม้ และสระน้ำมันเหมือนภาพวาดสมัยเด็ก ๆ เลยครับ แต่นี่มีอยู่จริง
เจ้าควายเผือกน้อย นี่ก็เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่เลยครับ
ม้าที่นี่ก็มีหลายตัว ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ลองขี่ด้วยครับ เด็กๆ ก็สามารถลองได้
ปิดท้ายกันด้วยที่พัก แบบโฮมสเตย์ ห้องหลักร้อย แต่วิวแบบหลักล้านมาก ๆ ครับ
♥ Check in 5
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
พิกัด :https://goo.gl/maps/vufWC2qTLBt
วันเวลา เปิดปิด: ทุกวัน 24 ชั่วโมง
Website: https://www.lopburi.org/pasakjolasiddam
โทร 036 494 291
มาถึงครึ่งทางกันแล้วนะครับ หลังจากไปเที่ยวแนวคาเฟ่ และฟาร์มกันไปแล้ว มาดูสถานที่สำคัญ ๆ หลัก ๆ ของ จ. ลพบุรีที่ไม่ควรพลาดกันครับ เริ่มกันที่ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ถือเป็นเขื่อนแกนดินเหนียวที่ยาวที่สุดในประเทศไทยตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อ ป้องกันปัญหาน้ำท่วม เริ่มดำเนินการก่อสร้างในวันที่2 ธันวาคมพ.ศ. 2537 ครับ
ภายในเขื่อนก็จะมีจุดชมวิวสันเขื่อน พิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับเขื่อน และลุ่มน้ำป่าสัก ของฝากมากมาย มีรถไฟบริการพาชมเขื่อนโดยรอบตั้งแต่เวลา 08.00 น- 16.30 น มองดูวิวกว้างใหญ่มาก ๆ เหมือนอยู่กลางทะเลสาบเลยทีเดียว
บริเวณเขื่อนรอบ ๆ ก็มีที่ท่องเที่ยว ที่แอดจะพาไป อีก 2 แห่ง คือ พระพุทธรัตนมณีมหาบพิตรชลสิทธิ์มงคลชัย (หลวงปู่ใหญ่ป่าสัก) อยู่บริเวณท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และรางรถไฟลอยน้ำ ที่เหล่านักท่องเที่ยวชอบไปชมวิวละถ่ายรูปกับรถไฟกัน ตามแอดมาต่อเลยครับ
บริเวณสันเขื่อนก็มีรถรางบริการนั่งชมวิวเขื่อนรอบ ๆ ด้วยนะครับ
สามารถปั่นจักรยานได้ด้วย ได้บรรยากาศมาก ๆ ครับ
วิวถ่ายรูปก็สวยไม่แพ้ต่างประเทศเลย
ถัดมาตรงท้ายเขื่อน ก็ได้มากราบสักการะ พระพุทธรัตนมณีมหาบพิตรชลสิทธิ์มงคลชัย (หลวงปู่ใหญ่ป่าสัก) เพื่อเป็นสิริมงคลต่อชีวิต หลวงปู่ใหญ่งดงามมาก ๆ ครับ องค์สีขาว ฐานดอกบัวสีชมพู ให้ความรู้สึกถึงความอ่อนโยน
พิกัดหลวงปู่ใหญ่ป่าสัก : https://goo.gl/maps/vDfkLm4S96x
ใกล้ ๆ กับ องค์พระใหญ่ ก็ยังมีคอกแพะ และมีบริการให้นมแพะด้วย แต่ละตัวน่ารักมา ๆ ครับ
♥ Check in 6
รางรถไฟกลางน้ำ
พิกัด : https://goo.gl/maps/9Xfd2YMkAEq
วันเวลา เปิดปิด: ทุกวัน 24 ชั่วโมง
ถัดมาอีกฝั่งก็เป็นรางรถไฟกลางน้ำ หรือที่เรียกกันว่า รถไฟลอยน้ำนั่นเองครับ อยู่ในเขตทางรถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยที่หยุดรถนี้จะมีรถไฟสายพิเศษเพื่อการท่องเที่ยว คือ สายกรุงเทพ-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เปิดให้บริการในช่วงเทศกาลการท่องเที่ยว ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคมของทุกปี ช่วงที่แอดไปก็ไม่มีโอกาสได้เจอรถไฟเลย เพราะมาช่วงกุมภาพันธ์ ไม่เป็นไรอย่างน้อยก็ได้มุมถ่ายรูปเก๋ ๆ ไปอีกแบบครับ
♥ Check in 7
พระนารายณ์ราชนิเวศน์
พิกัด :https://goo.gl/maps/SQQHHroi5jQ2
วันเวลา เปิดปิด: ทุกวัน เวลา 7:30–17:30 น.
Website: https://www.lopburi.org/wangpranarai
โทร 036 411 458
*รีวิวงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช” ครั้งที่ 32 อ้างอิงตามลิงค์ครับ
https://www.facebook.com/salaryhumantravel/posts/2158874317507720
"แต่งไทยเท่ เที่ยวงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์ฯ จ. ลพบุรี"????????♦️"งานจบรูปยังไม่จบ" นะครับ ???? ????รวมภาพบรรยากาศ "…
โพสต์โดย เที่ยวแบบมนุษย์เงินเดือน เมื่อ วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2019
มาถึงจุดที่ 7 กันแล้วนะครับ ที่นี่เป็นที่รู้จักกันมากขึ้นจากเรื่องบุพเพสันนิวาสนั่นเองครับ ที่นี่คือ พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์ นั่นเอง พระราชวังแห่งนี้มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากก แม้จะเก่าแก่ แต่ร่องรอยทางประวัติศาสตร์พระราชวังถือว่าสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทยสำหรับใครที่แวะมาเที่ยวลพบุรี ที่นี่ถือเป็นไฮไลท์ อีกที่ ที่ไม่ควรพลาดครับ
ก่อนจะเข้าสู่รีวิวเดี๋ยวผมขอแนะนำประวัติคร่าว ๆ ของที่นี่กันก่อนนะครับ
ที่มาข้อมูล https://www.lopburi.org/wangpranarai
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ดังกล่าวครับ
พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์ เป็นพระราชวังที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราช โปรดให้สร้างขึ้น ณ เมืองลพบุรี เมื่อประมาณ พ.ศ.2208-2209 มีข้อสันนิษฐาน ที่สำคัญ คือ ใน พ.ศ. 2207 เกิดกรณีพิพาทระหว่างฮอลันดากับไทย ฮอลันดาได้นำเรือมาปิดปากอ่าวไทยและบังคับให้ไทยทำสนธิสัญญาเสียเปรียบทางการค้า และเสียสิทธิสภาพนอกอาณาเขต สมเด็จพระนารายณ์ทรงเห็นว่ากรุงศรีอยุธยาตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำใหญ่ ไม่ห่างจากทะเล และด้วยเหตุผลทางการเมืองภายใน ประเทศ พระองค์โปรดให้สร้างพระราชวังที่เมืองลพบุรี ใช้เป็นราชธานีที่สอง ด้วยสภาพภูมิประเทศที่ตั้งอยู่ไกลจากแม่น้ำใหญ่ มีป่า ภูเขา สัตว์ป่าชุกชุมทำให้ ต้องอัธยาศัยในการเสด็จเข้าป่าล่าสัตว์ล้อมจับช้างในบริเวณป่าใกล้เมืองลพบุรี พระองค์จึงรู้สึกปลอดภัยเมื่อประทับอยู่ที่เมืองลพบุรี
พระราชวังนารายณ์ราชนิเวศน์มีพื้นที่ประมาณ 43 ไร่ ออกแบบโดยวิศวกรชาวฝรั่งเศส ลักษณะสถาปัตยกรรมเป็นแบบไทยผสมตะวันตก สมเด็จพระนารายณ์ทรงโปรดประทับ ณ เมืองลพบุรีเกือบตลอดปี เฉพาะฤดูฝนเท่านั้น จึงเสด็จไปประทับอยู่ ณ กรุงศรีอยุธยา เมืองลพบุรีจึงเป็นศูนย์กลางความเจริญตลอดรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์
เมื่อสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเสด็จสวรรคตใน พ.ศ. 2231 พระราชวังถูกทิ้งร้างจนกระทั่งถึงสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ 4 โปรด ฯ ให้ซ่อมแซมพระราชวังเดิมของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เมื่อ พ.ศ.2399 โปรดให้สร้างพระที่นั่งเพิ่มขึ้น และพระราชทานชื่อพระราชวังนี้ว่า “พระนารายณ์ราชนิเวศน์”
พระราชวังหันเข้าหาตัวเมือง ด้านหลังติดแม่น้ำลพบุรี กำแพงพระราชวังก่ออิฐถือปูน กำแพงชั้นนอกสูงใหญ่โดยรอบ มีใบเสมาเรียงรายบนสันกำแพงตลอดตรงกึ่งกลางกำแพงมีป้อมปืนอยู่ 7 ป้อม ตรงฐานของป้อมปืนแต่ละป้อมเจาะเป็นช่องกลมเพื่อเสียบปืนใหญ่ กำแพงด้านในเจาะเป็นช่องสำหรับตามประทีป มีประตูทางเข้า 7 ประตู มีลักษณะโค้งแหลม ปัจจุบันเปิดให้เข้าได้เฉพาะประตูด้านหน้า ทางทิศตะวันออกเท่านั้น
พระที่นั่งและตึกที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
1. พระที่นั่งจันทรพิศาล
2. พระที่นั่งดุสิตสวรรค์ธัญญมหาปราสาท
3. พระที่นั่งสุทธาสวรรย์
4. ตึกเลี้ยงรับแขกเมือง
5. ตึกพระเจ้าเหา
6. สิบสองท้องพระคลัง (พระคลังศุภรัตน์ )
7. ถังเก็บน้ำ
8. โรงช้างหลวง
9. หมู่พระที่นั่งพิมานมงกุฎ
10. หมู่ตึกพระประเทียบ
11. ทิมหรือที่พักของทหารรักษาการณ์
ช่วงที่แอดไปก็ตรงกับ งานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช” ครั้งที่ 32 พอดี ก่อนหน้านี้แอดได้ทำรีวิว และรวมภาพบรรยากาศไว้ อ้างอิงตามลิงค์ด้านล่างครับ
*รีวิวงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช” ครั้งที่ 32 อ้างอิงตามลิงค์ครับ
https://www.facebook.com/salaryhumantravel/posts/2158874317507720
♥ Check in 8
บ้านหลวงรับราชทูตหรือบ้านวิชาเยนทร์
พิกัด : https://goo.gl/maps/MpZ9EE7jHX52
วันเวลา เปิดปิด: ทุกวันพุธ -อาทิตย์ เวลา 8:30–17:00 น. หยุด จันทร์ -อังคาร
Website: https://www.lopburi.org/lopburi-banvichayen
โทร 086 810 3413
อีกจุดถือว่าสำคัญไปพร้อม ๆ กับ วังนารายณ์ และผมก็พึ่งได้ทราบประวัติศาสตร์ที่หลงลืมไปตั้งแต่เรียนมา พร้อม ๆ กับละครบุพเพสันนิวาส นี่แหละครับ ที่นี่คือ “บ้านวิชาเยนทร์” หรือ“บ้านหลวงรับราชทูต” นั่นเองครับ บ้านวิชาเยนทร์ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของพระนารายณ์ราชนิเวศน์ สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เนื่องจากสถานการณ์ที่นี้เป็นที่พักของ เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ขุนนางสำคัญในสมัยนั้น จึงได้ชื่อว่า “บ้านวิชาเยนทร์” นอกจากนี้เนื่องจากเมื่อครั้งทูตจากประเทศฝรั่งเศสชุดแรกที่เข้ามาเมื่อปี พ.ศ. ๒๒๒๘ ก็ได้พัก ณ สถานที่แห่งนี้ จึงได้ชื่อว่า “บ้านหลวงรับราชทูต” อีกชื่อหนึ่ง.
จากที่แอดได้เข้าไปชม และสัมผัสมาพบว่า บริเวณบ้านกว้างขวางมากครับ ถ้าเทียบกับเศรษฐีในสมัยปัจจุบันหลายท่าน ก็ไม่ใหญ่เท่านี้ เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของวังนารายณ์ เลยครับ ทั้งสองที่ สามารถเดินหากันได้ ครับไม่ไกลกันมาก
♥ Check in 9
พระปรางค์สามยอด
พิกัด : https://goo.gl/maps/y2R6o7ndkwN2
วันเวลา เปิดปิด: ทุกวัน เวลา 8:30–17:00 น.
ราคาตั๋ว : คนไทย 10 บาท ต่างชาติ 50 บาท
Website: https://www.lopburi.org/lopburi-prangsamyod
พระปรางค์สามยอด จุดนี้ถ้าพูดถึงลพบุรี ใคร ๆ ก็ต้องรู้จัก เพราะถือเป็นโบราณสถานที่เป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ไปแล้ว และมีในตราประจำจังหวัดอีกด้วยครับ
พระปรางค์สามยอด เป็นโบราณสถานที่มีอายุอยู่ใน ราวพุทธศตวรรษที่ 18 เป็นศิลปะเขมรแบบบายน สร้างด้วยศิลาแลงหินทราย ตกแต่งด้วยลวดลายปูนปั้นที่สวยงาม ตรงซุ้มประตูเดิมคงมีทับหลัง แต่ที่เหลืออยู่ในปัจจุบัน คือ เสาประดับกรอบประตูแกะสลักเป็นรูปฤาษีนั่งชันเข่าในซุ้มเรือนแก้ว ซึ่งเป็นแบบเฉพาะของเสาประดับกรอบประตูศิลปะเขมรแบบบายน
ด้านหน้าต่างทิศตะวันออก มีวิหารที่สร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นวิหารสร้างด้วยอิฐมีหน้าต่างโค้งแหลมประดิษฐานพระพุทธรูปศิลาขนาดใหญ่ปางสมาธิที่ยังสมบูรณ์ดี เป็นศิลปะแบบสมัยอยุธยาตอนต้นเลยครับ
นอกจากนี้บริเวณดังกล่าว ยังมีเจ้าลิงหลายร้อยตัวที่อยู่อาศัยบริเวณพระปรางค์สามยอด และบริเวณตึก ซึ่งถือเป็นเมืองที่มีฝูงลิงอาศัยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยแล้วครับ ลิงที่นี่ก็จะแบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่ รวมกันมากกว่า 500 ตัว กลุ่มแรกคือลิงซึ่งอาศัยบริเวณ ศาลพระกาฬ พระปรางค์สามยอด ลิงเหล่านี้ค่อนข้างเชื่องคนเพราะได้รับอาหารเลี้ยงจากนักท่องเที่ยว รวมถึงอาหารเซ่นไหว้จากประชาชนอยู่ตลอด
และอีกที่คือลิงตึก หรือลิงตามอาคารบ้านเรือนในบริเวณใกล้เคียง ลิงเหล่านี้เป็นลิงที่แตกฝูง โดนขับไล่ หรือเกิดไม่ได้เกิดในฝูงใหญ่ เจ้าจ๋อเหล่านี้ค่อนข้างอดอยากสักหน่อย และมีพฤติกรรมฉกฉวยสิ่งของจากนักท่องเที่ยว ค่อนข้างดุร้ายกว่าลิงที่อาศัยอยู่ในศาลพระกาฬและพระปรางค์สามยอด ยังไงเวลาเข้าใกล้บริเวณนี้ต้องระวังด้วยนะครับ พยายามเก็บทรัพย์สิน ของมีค่า ต่างหู สร้อยคอ เครื่องประดับนี่ต้องถอดเก็บเลยครับ เพราะลิงมันชอบ และพยายามอย่าให้ลิงกัด และข่วน อาจจะติดเชื้อได้ครับ
♥ Check in 10
กลุ่มทอผ้ามัดหมี่ ศูนย์การเรียนรู้ครูภูมิปัญญาไทย
พิกัด : https://goo.gl/maps/fh9tQCNrW7K2
วันเวลา เปิดปิด: ทุกวันจันทร์ -ศุกร์ เวลา 8:30–17:00 น.
โทร 036 651 097
มาถึง สถานที่สุดท้ายแล้วนะครับ จุดนี้ขอเอาใจคนชอบในเรื่องของสิ่งทอ ผ้ามัดหมี่ต่าง ๆ ขอบอกว่าที่นี่ กลุ่มทอผ้าบ้านโคกเจริญ ทางรายการ VOGUE THAILAND นิตยสารแฟชั่นระดับโลก เดินทางถ่ายทำรายการ “Vogue Who’s on Next The Vogue Fashion Fund 2018” เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย และผ้าทอพื้นเมือง ตลอดจนเป็นการยกระดับความสามารถของวงการดีไซเนอร์ไทย โดยการนำเหล่าดีไซเนอร์ไทยกว่า 10 แบรนด์แฟชั่น ลงพื้นที่ จ.ลพบุรี เพื่อคัดเลือก “ผ้ามัดหมี่” ที่งดงามที่สุด นำไปรังสรรค์ออกมาเป็นผลงานมาสเตอร์พีซ ที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกอีกด้วยครับ
เห็นแบบนี้ไม่ธรรมดาเลยนะครับ ว่าแล้วเรามาทำความรู้จักกับเจ้าของ และผู้ริเริ่มก่อตั้ง ศูนย์การเรียนรู้ แห่งนี้กันครับ
ครูวินัย ปัจฉิม ครูสอนศิลปะที่โรงเรียนอนุบาลโคกเจริญ ได้มีความชื่นชอบศิลปะบนผ้าทออยู่แล้ว จึงมีความคิดริเริ่มอยากพัฒนาศิลปะบนผ้าทอ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความเป็นธรรมชาติ พื้นเพจากภาคอีสาน นำมาพัฒนาให้เกิดลวดลายที่ร่วมสมัยและเป็นสากลมากย่ิงขึ้น เช่น ลายหลุยส์ ลายราตรีวังนารายณ์ ลายดอกทานตะวัน ลายดอกพิกุล (ลายผ้าประจำจังหวัดลพบุรี) สร้างชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศ และนานาชาติ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์จึงประดิษฐ์ผ้ามัดหมี่ขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า “ผ้ามัดหมี่ลายหลุยส์”
เมื่อได้พัฒนาลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ และงดงามแล้ว ก็ได้ถ่ายทอดให้ชาวบ้านได้เรียนรู้ จุดประสงค์หลัก ๆ คือ อยากให้ศิลปะ และวัฒนธรรมการทอผ้ายังคงอยู่ชั่วลูกชั่วหลาน และอยากให้ชาวบ้านมีรายได้เลี้ยงชีพทั้งตนเองและครอบครัว
นอกจากนี้ ช่วงที่พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ เสด็จสวรรคต ครูวินัยก็ได้ สร้างสรรค์งานศิลปะจากการทอผ้าเป็น “ผ้ามัดหมี่ลายหลุยส์ส่งเสด็จสวรรคาลัย” อีกด้วยครับ
ครูวินัยถือเป็นคนดีศรีลพบุรี ผู้นำกลุ่มทอผ้าในตำบลโคกเจริญเป็นผู้มีส่วนสำคัญยิ่งในการพัฒนาและสร้างสรรค์ภูมิปัญญาการทอผ้ามัดหมี่ต่อยอดจากภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวโคกเจริญ ให้ก้าวสู่สากลระดับโลก จริง ๆครับ
ที่มาข้อมูลเพิ่มเติมhttp://bit.ly/2TjMsnL
ครบแล้วครับทั้ง 10 ที่ เช็คอินเก๋ๆ ของจังหวัดลพบุรี ที่ไม่ควรพลาดครับ จะบอกว่าสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดลพบุรีมีเยอะมาก ๆ ครับ ที่แอดกล่าวมานี่คือแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่เนื่องด้วยเวลาจำกัด และปัจจัยหลายอย่างที่ไม่สามารถเก็บได้ครบ ยังไงก็อยากให้ลองมาเที่ยวซักครั้งแล้วคุณจะหลงรักจังหวัดนี้ครับ หลังจากที่แอดได้ไปมารู้สึกว่าเป็น เมืองลพบุรีเป็น จังหวัดที่สงบ ร่มรื่น ไม่แออัด มีร่องรอยประวัติศาสตร์ให้ศึกษามากมาย ผู้คนอัธยาศัยดี สรุปคือดีนั่นแหละครับ ฮ่าาา แต่แอดขอแนะนำเพิ่มเติม ถ้าส่วนใหญ่จะเที่ยวกันเป็นวันหยุด สุดสัปดาห์ หรือวันหยุดยาว แล้วรู้สึกเบื่อหน่ายกับรถติด นักท่องเที่ยวเยอะแยะ ต้องเบียดเสียด หรือรอคิวนาน ๆ ลองเปลี่ยนเป็น ลางานซักวัน สองวัน ไปวันธรรมดา แล้วจะรู้ว่า เที่ยวคล่องมาก ๆ เดินทางสะดวก รถไม่ติด ผู้คนไม่แออัดครับ ลองดูกัน ๆ
ก่อนจบรีวิว แอดมีของแถมอีกนิดครับ
คือที่พัก และ ร้านอาหารอีก 1 ร้านที่แอดได้ไปมา ครับผม
ส่วนที่พักที่แอดไปพัก คือที่นี่เลยครับ
ที่พัก
โรงแรมเค.พี.เพลส ลพบุรี
พิกัด : https://goo.gl/maps/5JPaRyuUvot
Website : http://www.kpplace.com/
โทร 099 939 7119
เราพักกันที่นี่ครับ โรงแรมเค.พี.เพลส ลพบุรี เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาวนะครับ ไม่ใหญ่มาก อยู่ในตัวเมือง เดินทางสะดวกครับ ผมชอบในเรื่องความสะอาดครับ ที่นี่ถือว่าสะอาดใช้ได้เลย กลางคืนก็เงียบมาก หลับสบายครับ ที่สำคัญ ราคาที่นี่ หลักร้อยครับ
ร้านอาหาร
ร้านตาเม็ดปลาตะเพียนไร้ก้าง
พิกัด :https://goo.gl/maps/tKyR1tq6VA92
โทร 086 665 1705
ร้านนี้ชื่อ ร้านตาเม็ดปลาตะเพียนไร้ก้าง อาหารจานเด็ดของที่นี่ตามชื่อเลยครับ คือปลาตะเพียนไร้ก้าง ถ้ามาลพบุรี ยังไม่มีไอเดียว่าจะทานอะไร แนะนำที่นี่เลยครับ คนท้องถิ่นบอกว่า เป็นร้านชื่อดังของที่นี่เช่นกัน รสชาติ ใช้ได้ครับ อาหารมีหลากหลาย อร่อยจนต้องสั่งเพิ่มครับ
มาถึงช่วงสุดท้ายแล้ว แอดต้องขอลากลับก่อนนะครับ ถึงเวลาต้องกลับไปทำงานแล้วหละซิ เหล่ามนุษย์เงินเดือนทั้งหลาย ไว้เจอกันทริปหน้านะครับ สวัสดีครับ
รีวิวอื่นๆ
1.รีวิวเที่ยวเกาะค๊อกเบิร์น COCK BURN ทะเลพม่า กับ LOVE ANDAMAN
2.รีวิวการขอวีซ่าออสเตรเลีย ด้วยเงินในบัญชี 5 หมื่น “ขอครั้งแรก” ได้มา 3 ปี
3.รีวิวเที่ยวไทเป 4 วัน 3 คืน “ไต้หวัน” ฉบับพาครอบครัวเที่ยว ก.พ. 2562