รีวิวการขอวีซ่าออสเตรเลีย ด้วยเงินในบัญชี 5 หมื่น
ขอครั้งแรก ได้มาแบบ “MULTIPLE 3 ปี” 3 วันรู้ผล
สวัสดีครับ มาแล้วว…สด ๆ ร้อน ๆ มือผมนี่ยังสั่นอยู่เลยครับ สำหรับรีวิวการขอวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย (Visitor Visa 600) แบบออนไลน์ ที่ทำครั้งแรก แล้วได้มาแบบ Multiple 3 ปี แค่ 3 วันก็รู้ผลครับ ส่วนตัวไม่ได้คาดหวังกับ 3 ปีมากนักเพราะคิดว่าเป็นการขอครั้งแรก แต่ได้ผลเกินคาดครับ เพราะบางคนได้ 1 ปี บางคนได้ 3 เดือน แตกต่างกันไป ในส่วนรีวิวนี้ผมจะบอกเคล็ดลับที่จะช่วยให้มีโอกาสได้รับการพิจารณาให้ได้วีซ่าแบบยาวนานมากขึ้น 1 ปี 3 ปีก็ว่ากันไป แต่ผมไม่สามารถการันตีได้ว่าทุกคนที่ทำตามแล้วจะได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่นะครับ เพราะผลการพิจารณานั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกัน เดี๋ยวผมจะอธิบายเป็นหัวข้อ ๆ นะครับ ว่าแล้วเรามาเริ่มกันเลยครับ
♦♦♦
จากรูปเป็นตัวอย่างผลวีซ่าออสเตรเลียของผมเองครับ ซึ่งวีซ่าจะไม่เหมือนกับประเทศอื่น เพราะผลวีซ่าจะได้รับทางอีเมล และแจ้งเป็นไฟล์ PDF มาตามรูปครับ ถึงจะได้มาแค่หน้ากระดาษแบบนี้ แต่ชื่อ และข้อมูลเราก็ถูกบันทึกไว้ในระบบของสถานทูต และสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อย
ระยะเวลาของวีซ่าคือ ตั้งแต่ 5 March 2019-5March 2022 (ระยะเวลา 3 ปี) และ แต่ละครั้งอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือนครับ
ตรงในส่วนของ Visa Conditions หรือ เงื่อนไขของวีซ่า ของผมจะได้เป็น
8101- No work ไม่อนุญาตให้ทำงาน ขณะที่อยู่ในประเทศออสเตรเลีย
8201- Maximum three months study สามารถเรียน หรือเทรนคอร์ส ระยะสั้นได้ ไม่เกิน 3 เดือน
ซึ่งแต่ละคนจะได้รับเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป ของผมที่ได้ สามารถท่องเที่ยว หรือไปเรียนภาษาหรือคอร์สระยะสั้นได้ ไม่เกิน 3 เดือน หากในระหว่างนั้น ขณะที่อยู่ออสเตรเลีย สามารถยื่นเรื่องต่อวีซ่า หรือขอเปลี่ยนแปลงวีซ่าเป็นอย่างอื่นได้ แต่ถ้ามีเงื่อนไขเป็น 8503 No Further Stay ห้ามต่อหรือยื่นวีซ่าตัวอื่นในระหว่างอยู่ในประเทศออสเตรเลียครับ
หลังจากที่ดูตัวอย่างวีซ่าเบื้องต้นแล้ว มาดูขั้นตอนและวิธีการขอวีซ่ากันบ้างครับ
♦♦♦
7 เคล็ดลับที่ไม่ลับ
ก่อนจะเข้าสู่วิธีการ เรามาดูเคล็ดลับที่ผมเอามาใช้กับการขอวีซ่าในครั้งนี้ครับ
1.ใส่ใจทุกรายละเอียดทุกขั้นตอนครับ เริ่มตั้งแต่การรวบรวมเอกสาร ไปจนถึงกรอกข้อมูล โดยเฉพาะกรอกข้อมูลนี้ต้องใช้ความอดทน และสมาธิมาก ๆข้อมูลจะผิดพลาดไม่ได้นะครับ เพราะการทำวีซ่าแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่าย และโอกาสมีแค่ผ่านกับไม่ผ่าน เพราะถ้าข้อมูลผิดพลาดไป อาจจะโดนพิจารณาให้วีซ่าไม่ผ่านได้ เดี๋ยวเสียจะดายทีหลังครับ
2.เอกสารต้องครบตาม Check list ที่ทางสถานทูตขอมา ให้คิดว่าเหลือดีกว่าขาดครับ เพราะเอกสารที่ทางสถานทูตขอนั้นเป็นกุญแจสำคัญในการพิจารณา ไม่ว่าจะเป็น หน้า Passport รูปถ่าย สำเนาทะเบียนบ้าน บัตรประชาชน เอกสารที่ทำงาน เอกสารทางการเงิน ฯลฯ เอกสารทั้งหมดที่เป็นภาษาไทย ไม่ต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษนะครับ รายละเอียดเอกสารเดี๋ยวผมจะแจ้งในหัวข้อถัดไปครับ
3.เอกสารที่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ขอ แต่ก็ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนข้อมูลเรา เอกสารอื่น ๆ ที่ทางสถานทูตไม่ได้ขอ แต่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา เช่น ถ้ามีคอนโด ที่ผ่อนอยู่ มีรถที่เป็นชื่อของตนเอง หรือบัตรเครดิตที่ใช้งาน เอกสารการเสียภาษี สำหรับพนักงานประจำ อาชีพอิสระ หรือเจ้าของกิจการ ก็ให้แนบเอกสารหลักฐานกรรมสิทธิ์ไปด้วยเพราะเอกสารเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเรามีภาระผูกพัน ที่ประเทศไทยจริงๆและจะไม่หนีวีซ่าครับ หมายเหตุ! เอกสารที่ติดเครดิตบูโร หรือ Blacklist ไม่ต้องแนบนะครับ อันนี้ไม่ได้ช่วยครับฮ่าาา
4.เอกสารที่แนบที่เป็นฉบับสำเนา ให้เซ็นกำกับทุกใบ เอกสารผมจะเซ็นกำกับทุกใบครับ เขียนด้วยลายมือทั้งหมด โดยผมจะเขียนและเซ็นกำกับว่า CERTIFIED TRUE COPY OF AN ORIGINAL DOCUMENT ลงลายเซ็นตามหน้า PASSPORT ลงวันที่ XX/XX/XXXX
5.เอกสารที่ไม่จำเป็นต้องแนบก็ได้ ตั๋วเครื่องบินไปกลับ หลักฐานการจองโรงแรม จริง ๆ ข้อมูลเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องแนบก็ได้ครับ เพราะปัจจุบันทางสถานทูตยกเว้นเอกสารเหล่านี้ได้ และสามารถจองได้หลังวีซ่าผ่านแล้ว แต่ส่วนใหญ่ก็จะจองตั๋วแบบโปรโมชั่นถูกมั๊ยครับเพราะผมเองก็มีประสบการณ์ตอน ขอวีซ่าเชงเก้น ตอนนั้นไม่กล้าจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า มีโปรโมชั่นถูกบินไปกลับยุโรป หลักหมื่นปลาย ๆ แต่พอวีซ่าออก แล้วมาจองตั๋วทีหลัง ราคาสูงเท่าตัวเลยครับ ครั้งหน้ารู้วิธีการแล้วควรจองตั๋วแบบถูก ๆ ดีกว่า แล้วค่อยไปขอวีซ่าครับ
6.ข้อมูลต้องถูกต้อง ครบถ้วน ชัดเจน สมเหตุสมผล และสอดคล้องกัน ข้อนี้สำคัญอีกข้อ ข้อมูลทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร ข้อมูลในใบสมัคร หรือเว็บออนไลน์ ต้องเป็นจริงและสอดคล้องกันครับ เช่น วันเดินทางไปกลับ เอกสารทุกฉบับ หรือเว็บที่กรอกทุกข้อต้องตรงกัน หรือจะเป็นจำนวนเงินในบัญชี ต้องสอดคล้องกับระยะเวลาที่ไป อย่างเช่นผมมีแพลนเดินทางไป ออสเตรเลีย 9 วัน ผมมีเงินในบัญชี 50,000 บาท ถือว่าสอดคล้องครับ แต่ถ้าอยู่นานกว่านี้อาจจะต้องคำนวณคร่าว ๆ ว่าถ้าเราเดินทางไปเที่ยวแล้ว รวมค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ควรจะเป็นเท่าไหร่ ประมาณนี้ครับ *หมายเหตุ Statment ต้องมีที่มาที่ไปชัดเจนนะครับ
7. ตอนกรอกใบสมัครออนไลน์ในส่วนคำถามที่ถามว่าDoes the applicant intend to enter Australia on more than one occasion? ผู้สมัครตั้งใจเดินทางเข้าออสเตรเลียมากกว่าหนึ่งครั้งหรือไม่? ข้อนี้ถือว่าสำคัญครับ โอกาสที่เราจะได้แบบ Multiple Visa 1 ปี หรือ 3 ปี อยู่ตรงนี้ครับ ผมตอบไปว่า Yes และ จากนั้นก็จะมีช่องให้เหตุผล ผมก็ตอบไปประมาณว่า ผมมีแพลนจะไปอีกครั้งประมาณปลายปี เพื่อไปฉลองคริสต์มาส และปีใหม่ ถ้าฉลองปีใหม่ก็แสดงว่าอยู่ข้ามปีถูกไหมครับ ฮ่าาา แต่อันนี้ผมมีแพลนอยู่ในใจจริง ๆ ครับ ว่าจะไปอีกครั้งแน่นอน แต่ยังไม่แน่ใจช่วงเวลา เลยตอบช่วงนั้นไปก่อน แต่ถ้าใครไม่คิดจะไปออสเตรเลียมากกว่า 1 ครั้ง ก็ตอบ No ไป ก็ได้ครับ
♦♦♦
ขั้นตอนการขอวีซ่าท่องเที่ยว ออสเตรเลีย แบบออนไลน์
(Visitor Visa 600)
การขอวีซ่าของออสเตรเลียมีทั้งแบบ Walk in และแบบออนไลน์นะครับ แต่ผมขอแนะนำแบบออนไลน์จะดีกว่า ประหยัดค่าใช้จ่าย และประหยัดเวลามากกว่าครับ หลังจากที่ผมได้บอกเคล็ดลับในการขอวีซ่าเบื้องต้นแล้ว เรามาดูวิธีการขอวีซ่าแบบออนไลน์กันว่ามีอะไรบ้างต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างกันครับ
1. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน พร้อมเซ็นกำกับ และ สแกนไฟล์เป็น PDF
2. กรอกใบสมัครออนไลน์ 20 ขั้นตอน พร้อมแนบไฟล์เอกสาร
3. ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าผ่านบัตรเครดิต (คิดเป็นบาทประมาณ 3,274 บาท)
4. เมื่อยื่นวีซ่าเเล้ว ต้องไปที่ VFS เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลชีวภาพหรือข้อมูลไบโอเมตริกซ์ คือไปถ่ายรูปเเละสเเกนลายนิ้วมือด้วยตนเองที่ VFS กทม หรือ VFS เชียงใหม่ โดยจะเสียค่าธรรมเนียมให้ VFS จำนวน 851 บาท (รับเฉพาะเงินสด)
5. รอผลพิจารณาวีซ่า ผ่านทาง อีเมลล์
นี่คือ 5 ขั้นตอนหลัก ๆ สำหรับการขอวีซ่าแบบออนไลน์ครับ ข้อมูลดังกล่าว ผมขอแนะนำ กระทู้จากพันทิปที่พี่ ๆ ที่ขอวีซ่าด้วยกันแนะนำมา ผมใช้กระทู้นี้เป็นตัวตัวอย่างในการขอวีซ่า และกรอกข้อมูล ซึ่งเป็นกระทู้ที่บอกละเอียดมาก สามารถทำตามได้เลยครับ แต่ข้อมูลบางอย่างในเว็บไซต์ บางขั้นตอนก็มีเปลี่ยนแปลงบ้าง แต่ก็ไม่มากครับ
♥[CR] How to วีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลียออนไลน์ Step By Step เอกสารครบเเละดีมีสิทธิ์ได้ Multiple 1 ปี [Click]
เจ้าของกระทู้ คุณ artchwat
ส่วนข้อมูลการจัดเตรียมเอกสาร และข้อมูลอื่น ๆ เพิ่มเติมครับ
♥Website ศูนย์ยื่นวีซ่าออสเตรเลีย (VFS) [Click]
♥เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อใช้ในการยื่นขอวีซ่า [Click]
♦♦♦
เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
พร้อมเซ็นกำกับ และสแกนไฟล์เป็น PDF
ขั้นตอนการเตรียมเอกสาร ถือว่าใช้เวลามากที่สุด เพราะบางเอกสารต้องใช้เวลา และค่อนข้างจะยุ่งยากสำหรับคนที่เคยขอวีซ่าครั้งแรก แต่ถ้าทำตาม step อย่างอื่นก็ไม่มีปัญหาครับ
♥เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อใช้ในการยื่นขอวีซ่า [Click]
เอกสารทั้งหมดที่ต้องเตรียมมีดังนี้ครับ
- รูปถ่ายขนาด 3.5 X 4.5 CM พื้นหลังสีขาว อายุไม่เกิน 6 เดือน
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) ที่มีรูป และข้อมูลเขาเรา ที่เหลืออายุอย่างน้อย 6 เดือนนับจากวันเดินทาง
- สำเนาประวัติการเดินทาง (หน้าพาสปอร์ตที่มีตราแสตมป์จาก ตม. ประเทศต่างๆ ที่เราเคยเดินทางไปทุกหน้า รวมทั้งหน้าวีซ่าที่เคยได้) ทั้งเล่มใหม่ และเล่มเก่า ( ถ้ามี)
- แผนการเดินทางและการท่องเที่ยวในแต่ละวัน แบบคร่าว ๆ โดยเน้นระบุวันเดินทางไป- กลับ สถานที่คร่าว ๆ ถ้าหากมีการจองตั๋วเครื่องบิน หรือที่พักแล้ว แนะนำให้ใส่รายละเอียดไปด้วย แต่ถ้าไม่มีไม่เป็นไรครับ เพราะอย่างที่ผมได้กล่าวไว้ข้างต้น ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ไม่จำเป็นต้องมีก็ได้
- หลักฐานทางการเงิน Statment บัญชีออมทรัพย์ บัญชีเงินเดือน หรือ บัญชีฝากประจำ ย้อนหลัง 6 เดือน ที่มียอดเงินเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายระหว่างอยู่ในออสเตรเลีย ของผมไปขอที่ธนาคารครับ เพราะสมุดบัญชีเงินฝากไม่ได้ Update นานมาก บางธนาคารก็สามารถรับได้เลย และบางธนาคารอาจต้องรอ 1-2 วัน ไม่ควรปริ้นจากในเว็บครับ เพราะทางเจ้าหน้าที่อาจจะต้องขอเพิ่ม ให้ไปขอที่ธนาคารเลยจะปลอดภัยกว่า มีลายเซ็นเจ้าหน้าที่ธนาคารกำกับด้วย
- หลักฐานการประกอบวิชาชีพ ถ้าเป็นข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ พนักงานประจำ ก็มีจดหมายยืนยันการทำงาน รับรองตำแหน่งงาน วันที่เริ่มงาน ประเทศที่ไป ระยะเวลาที่อนุญาตให้ลา ที่มีลายเซ็นรับรองจากหัวหน้างาน เซ็นรับรองครับ ของผมก็เป็นพนักงานประจำ ทางบริษัทมีปริ้นให้แค่ หนังสือรับรองตำแหน่งงาน วันเริ่มงาน แค่นี้ครับ แต่ผมจะเพิ่มในส่วน สำเนาบัตรพนักงาน สำเนา slip เงินเดือน 3 เดือนย้อนหลัง สำเนาการเสียภาษี อัดไปให้หมดครับ เหลือดีกว่าขาด ส่วนอาชีพอิสระ หรือเจ้าของกิจการ ธุรกิจส่วนตัว ก็ใช้เอกสารจดทะเบียนการค้า เอกสารเกี่ยวกับบริษัท ประมาณนี้ครับ
- เอกสารอื่น ๆ เพิ่มเติมที่จะช่วยส่งเสริม และสนับสนุนข้อมูลเรา เช่น ถ้ามีคอนโด ที่ผ่อนอยู่ มีรถที่เป็นชื่อของตนเอง หรือบัตรเครดิตที่ใช้งาน เอกสารการเสียภาษี สำหรับพนักงานประจำ อาชีพอิสระ หรือเจ้าของกิจการ ก็ให้แนบเอกสารหลักฐานกรรมสิทธิ์ไปด้วยเพราะเอกสารเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเรามีภาระผูกพัน ที่ประเทศไทยจริงๆและจะไม่หนีวีซ่าครับ หรือในกรณีที่มีญาติ หรือคนรู้จัก ก็ให้แสดงหลักฐานทางความสัมพันธ์ อาจจะมีรูปถ่าย หรือสำเนาทะเบียนบ้านแสดงความสัมพันธ์ จดหมายเชิญจากญาติที่ออสเตรเลีย หลักฐานการสนับสนุนทางการเงินจากคนที่เป็น Sponsor ให้เราครับ
………………………………………………
ทั้งหมดนี้คือเอกสารที่ต้องเตรียมครับ โดยที่เตรียมครบแล้ว เอกสารชุดไหนที่เป็นแบบถ่ายเอกสาร ให้เซ็นกำกับ ตามตัวอย่างนี้ครับ โดยเขียนด้วยลายมือทั้งหมด
CERTIFIED TRUE COPY OF AN ORIGINAL DOCUMENT
ลงลายเซ็นตามหน้า PASSPORT
ลงวันที่ XX/XX/XXXX
จากนั้นให้ สแกนเป็นไฟล์ PDF ยกเว้นรูปถ่ายเป็น JPEG ได้ครับ เพื่อลดความสับสนผมจะแยกไฟล์เอกสารแต่ละประเภท ตามข้อ ๆ ไว้ ในแต่ละ โฟลเดอร์ ตอนที่ทำการแนบไฟล์จะได้ไม่งงครับ จากนั้นให้ตั้งชื่อไฟล์ตามโฟลเดอร์ ถ้ามีหลายหน้าแนะนำให้รวบเป็นเอกสารชุดเดียว แต่รวมกันไม่เกิน 5 MB และ ทั้งหมดไม่เกิน 60 แผ่น ครับ เป็นข้อกำหนดของทางสถานทูต
ตัวอย่างแผนการเดินทางคร่าว ๆ ครับ ไม่จำเป็นต้องละเอียดก็ได้ครับ
♦♦♦
กรอกใบสมัครออนไลน์ 20 ขั้นตอน
พร้อมแนบไฟล์เอกสาร และชำระค่าธรรมเนียม
ในส่วนของขั้นตอนการกรอกใบสมัครออนไลน์ นี้ ผมจะขออ้างอิงตัวอย่างที่ผมได้กล่าวมาข้างต้นนะครับ
♥[CR] How to วีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลียออนไลน์ Step By Step เอกสารครบเเละดีมีสิทธิ์ได้ Multiple 1 ปี [Click]
เจ้าของกระทู้ คุณ artchwat
ซึ่งเจ้าของกระทู้ตั้งใจ และละเอียดมากครับ แต่จะมีบางข้อที่มีการปรับเปลี่ยนบ้างเล็กน้อย เนื่องจากทางเว็บไซต์ จะมีการ update ข้อมูลอยู่เรื่อยๆ ไม่ต้องตกใจครับ กรอกตามข้อมูลที่เรามี
ตอนกรอกอย่าลืม ข้อนี้นะครับเคล็ดลับที่ผมได้บอกไว้ก่อนหน้า
อ้างอิง
7. ตอนกรอกใบสมัครออนไลน์ในส่วนคำถามที่ถามว่าDoes the applicant intend to enter Australia on more than one occasion? ผู้สมัครตั้งใจเดินทางเข้าออสเตรเลียมากกว่าหนึ่งครั้งหรือไม่? ข้อนี้ถือว่าสำคัญครับ โอกาสที่เราจะได้แบบ Multiple Visa 1 ปี หรือ 3 ปี อยู่ตรงนี้ครับ ผมตอบไปว่า Yes และ จากนั้นก็จะมีช่องให้เหตุผล ผมก็ตอบไปประมาณว่า ผมมีแพลนจะไปอีกครั้งประมาณปลายปี เพื่อไปฉลองคริสต์มาส และปีใหม่ ถ้าฉลองปีใหม่ก็แสดงว่าอยู่ข้ามปีถูกไหมครับ ฮ่าาา แต่อันนี้ผมมีแพลนอยู่ในใจจริง ๆ ครับ ว่าจะไปอีกครั้งแน่นอน แต่ยังไม่แน่ใจช่วงเวลา เลยตอบช่วงนั้นไปก่อน แต่ถ้าใครไม่คิดจะไปออสเตรเลียมากกว่า 1 ครั้ง ก็ตอบ No ไป ก็ได้ครับ
เมื่อกรอกยังไม่เสร็จ สามารถ Save ได้เรื่อย ๆ ครับ ครั้งหน้าสามารถเข้ามากรอกต่อได้
♦♦♦
เก็บรวบรวมข้อมูลชีวภาพหรือข้อมูลไบโอเมตริกซ์
(ถ่ายรูปเเละสเเกนลายนิ้วมือด้วยตนเองที่ VFS)
หลังจากที่ดำเนินการกรอกข้อมูล แนบเอกสาร และชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อย จากนั้นก็เป็นขั้นตอนสุดท้ายสำหรับการทำวีซ่าครั้งนี้ คือ ต้องเดินทาง ไปเก็บข้อมูลลายนิ้วมือ และถ่ายรูปด้วยตนเอง ที่ VFS 851 บาท (เฉพาะเงินสด)
หลังจากที่เรายื่นเอกสาร จ่ายเงินเรียบร้อยเเล้ว ระบบออนไลน์ก็ส่งออโต้อีเมล มาให้เรา 2 ฉบับทันทีครับ คือ
1. IMMI Acknowledgement of Application Received
2. IMMI s257A (s40) Requirement to Provide PIDs ให้ปรินท์ใบ Immi s257A (S40) คือใบที่มีชื่อเราเเละ Barcode เพื่อนำใบนี้เเละพาสปอร์ตไปที่ VFS ครับ
แต่ต้องทำการจองคิวล่วงหน้าก่อนผ่านเว็บไซต์ด้านล่างครับ
จองคิวเก็บรวบรวมข้อมูลชีวภาพหรือข้อมูลไปโอเมตริกซ์ [Click]
กระทู้วิธีการจองคิว [Click]
หรือหากเร่งด่วน ไม่สะดวกจอง ก็สามารถ Walk in ได้ครับ แต่ต้องจ่ายเพิ่ม 627 บาท ถ้าใครไม่อยากเสียเงินแนะนำจองดีกว่าครับ สามารถจองได้ขณะที่กรอกข้อมูลครับ
เอกสารที่ต้องเตรียมเมื่อไปยื่น ที่ VFS
- Passport ตัวจริง
- ใบนัดหมายให้ปร้ินมาด้วย หลังจากทำการจองผ่านเว็บไซต์แล้วระบบจะส่งใบนัดหมายให้ทาง อีเมล
- เอกสาร Immi s257A (S40) คือเอกสารที่ได้รับจากอีเมลหลังจากกด กรอกข้อมูลและชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อย จะมีข้อมูลเรา และ Barcode
- เตรียมเงินสด 851 ป ค่าธรรมเนียมที่ VFS แต่ถ้า Walk in แบบไม่ได้จองคิว ให้เตรียม 627 มาด้วยครับ
การเดินทางไป VFS
ที่ประเทศไทย ซึ่งมีอยู่ 2 ที่คือ กทม เเละเชียงใหม่ ครับ
VFS กรุงเทพฯ
Australia Visa Application Centre กทม
The Trendy Office Building, 28th Floor
Sukhumvit Soi 13, Klongtoey-NuaWattana,
Bangkok 10110
Hours of operation:
Application Lodgement: Monday – Friday,
8:30am – 3pm
พิกัด https://goo.gl/maps/JC4ovN5bVz72
VFS เชียงใหม่
Australia Visa Application Centre เชียงใหม่
Siriphanich, 191 Huaykaew Rd
Suthep, Muang, Chiang Mai (opposite MAYA Lifestyle Shopping Centre)
Hours of operation:
Application Lodgement: Monday – Friday,
8:30am – 2:30pm
พิกัด https://goo.gl/maps/NKgjpXUQSat
ส่วนผมอยู่ กรุงเทพฯอยู่แล้ว จึงไปทำที่ VFS กรุงเทพ ครับ
เมื่อเดินทางไปถึงให้ยื่นเอกสารที่เคาน์เตอร์ชั้นล่างก่อนครับ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ stamp เพื่อตรวจสอบเอกสารเบื้องต้นก่อน จากนั้นให้ขึ้นไปที่ชั้น 28 เป็นโซนออฟฟิศนะครับที่ The Trendy Office Building ถ้าหาไม่เจอให้สอบถามเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม
เมื่อขึ้นมาแล้วให้ยื่นรับบัตรคิว กรณี Walk in หรือรอเรียกคิว กรณีนัดหมายไว้แล้ว
ผมมาถึงตอนแรก ตกใจคนเยอะมาก แต่พอเอาจริงๆ ใช้เวลาไม่นานครับ เพราะเจ้าหน้าที่ดำเนินการเร็วมาก ของผมไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว รวมเวลารอคิว แต่ตอนเก็บข้อมูล และถ่ายรูป ไม่ถึง 5 นาทีครับ ผมไปช่วงบ่าย คนก็จะเยอะกว่าช่วงเช้าเป็นพิเศษครับ
เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วให้เข้าไปกดข้อมูลที่ระบบอีกครั้ง ดังนี้ครับ
**สำคัญ**
หลังจากที่ไปเก็บลายนิ้วมือและถ่ายรูปแล้ว ให้เข้ามาคลิกที่ ATTACH DOCUMENTS แล้วเลื่อนลงมาล่างสุดจะมีปุ่ม I CONFIRM I HAVE PROVIDED INFORMATION AS REQUESTED ให้กดที่ปุ่มนี้เพื่อยืนยันว่าเราจัดการเก็บลายนิ้วมือเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้ทางนั้นดำเนินการพิจารณาวีซ่าให้เราต่อไปครับ แต่ข้อมูลเบื้องต้นอาจเปลี่ยนแปลง และ Update อยู่ตลอดครับ ยังไงอาจอาจจะสอบถามเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมเพื่อความแน่ใจอีกครั้งครับ
♦♦♦
รอผลพิจารณาวีซ่าผ่านทางอีเมล
มาถึงขั้นตอนสุดท้าย ท้ายสุด และลุ้นที่สุด เป็นช่วงเวลาที่กินไม่ค่อยจะได้ นอนไม่ค่อยจะหลับ สำหรับใครบางคนที่คาดหวังกับวีซ่ามาก ๆ ผมก็คือหนึ่งในนั้นครับ ฮ่าาา
ช่วงที่รอผลวีซ่า นั้นถ้าในหน้าเว็บไซต์ ระบบแจ้งว่า ใช้เวลา 18-29 วัน แต่ของผมกับพี่ ๆ ที่ทำด้วยกัน ใช้เวลาเพียงแค่ 3 วันทำการ ถือว่าเร็วมาก ๆ ครับ โดยผลจะแจ้งผ่านทางอีเมลดังรูปตัวข้างต้น ตอนแรกที่รู้ว่าผ่านก็ดีใจมากแล้วครับ แต่พอไปเห็นปีที่หมดอายุ อันนั้นร้องลั่นห้องเลยรู้สึกดีมาก ๆ เพราะเค๊าให้มา 3 ปีกันเลยทีเดียว แต่ได้นานขนาดนี้ จะมีเงินเที่ยวได้กี่รอบ อันนี้ค่อยว่ากันอีกทีครับ ฮ่าาา
สุดท้ายนี้ ผมหวังว่าข้อมูลที่ผมได้เอามาแชร์สำหรับทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่านจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ ผมก็ขออวยพรให้วีซ่าผ่านกันทุก ๆ คน และได้ 3 ปีกันทุก ๆ คนนะครับ สาธุ
ใครจะไปเที่ยวบริสเบน… ไปอ่านรีวิวได้เลย ตามลิงค์ด้านล่างนี้
คลิก>>> รีวิวเที่ยวบริสเบน 5 วัน 4 คืน ครบทั้งในเมืองและเกาะมอร์ตั้น…Brisbane, Australia
รีวิวอื่นๆ
1.รีวิวเที่ยวไทเป ตะลุยกินชาไข่มุก “ไต้หวัน” 7 วัน 6 คืน กับแก๊งค์เพื่อน
2.เที่ยวสิมิลัน สวรรค์บนดิน LOVE ANDAMAN LOVE THE SEA EP 1
3.รีวิวเที่ยวเมืองนาโกย่า(NAGOYA) ประเทศญี่ปุ่น ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี 2018