รีวิวเที่ยว “เกิ่นเทอ Can tho” เมืองตลาดน้ำแห่งเวียดนามใต้ 2 วัน 1 คืน

เกิ่นเทอ Can tho…สวัสดีทุกท่าน วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวเกิ่นเทอ Can tho ประเทศเวียดนามด้วยกัน โดยนั่งจาก สนามบินนานาชาติดอนเมือง ไปลงที่ สนามบินนานาชาติเตินเซินเญิ้ต หรือ สนามบินโฮจิมินห์นั่นเอง ทริปนี้เราได้ใช้บริการสายการบินของแอร์เอเชีย ใช้เครื่องลำเล็ก FD 656 เป็นที่นั่งจะเป็นแบบ 3 – 3 หลังจากเราไปเกิ่นเทอที่ผ่านมานี้ทางสายการบินแอร์เอเชียได้เปิดเส้นทางการบินใหม่ เป็นบินตรงจาก ดอนเมือง สู่ เมืองเกิ่นเทอ ในความที่เพิ่งเปิดสายการบินใหม่ล่าสุดแล้วบินตรงด้วยนะเออ ทำให้เราอดบินตรงไปลงที่เกิ่นเทอ ฮ่าๆๆ ครั้งนี้เราพาไปทำความรู้จักกับเมืองเกิ่นเทอ ว่าสถานที่ท่องเที่ยวในเกิ่นเทอมีอะไรบ้าง และของกินแปลกๆให้ได้ลองกันรึป่าว

…ทริปนี้เพิ่งเดินทางกลับมาได้ไม่นานเท่าไหร่ เราเดินทาง ช่วง 20-21 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านนี่เอง จริงๆก็เกือบเดือนได้แล้วแหละ ฮ่าาาๆ ความรู้สึกเราที่ไปเกิ่นเทอ เราว่าเป็นเมืองสโลว์ไลฟ์นะ ไม่เร่ง ไม่รีบ ชิลๆดีอ่ะ เลยได้มีเวลาเที่ยวได้หลายที่พอเท่าที่จะเที่ยวได้

เอาละ เกริ่นมาพอสมควรมาติดตามกันดีกว่า ว่าทริปนี้เราจะพาไปเที่ยวที่ไหน ไปกิน และพักที่ไหนกัน เราจะขอเล่าการเดินทางแบบไล่ตามวัน พร้อมบอกวิธีการเดินทาง เผื่อใครจะไปเที่ยว ตามมาดูกันเลยว่า 2 วัน 1 คืน จะมีที่ไหนกันบ้าง

รีวิวเที่ยว “เกิ่นเทอ Can tho” เมืองตลาดน้ำแห่งเวียดนามใต้ 2 วัน 1 คืน

สถานที่เที่ยว ที่เราไปมีในทริปตามนี้เลย

  • Phat Hoc Pagoda (เจดีย์ภัทรหมอก)
  •  Ho Chi Minh Monument (สวนสาธารณะเกิ่นเทอ)
  • Ong Temple (วัดอ่อง)
  • Can Tho Night Market (ตลาดเกิ่นเทอตอนกลางคืน)
  • Cầu đi bộ Bến Ninh Kiều (สะพานเดนกิล)
  • Cai Rang Floating Market (ตลาดน้ำเกิ่นเทอ)
  • Sáu Hoài Rice Noodle Factory (บ้านทำเส้นก๋วยเตี๋ยว)
  • Bảo Tàng Quân Khu 9  (พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ – เขตทหาร 9)
  • Nam Nha Pagoda (เจดีย์น้ำญา)
  • Bình Thủy temple (วัด Binh Thuy)
  • Binh Thuy Ancient House (บ้านโบราณบินห์ถ่อหยี

20/02/2562

วันแรกของการเดินทางจากไทย ไปเกิ่นเทอ ทริปนี้เราใช้บริการสายการบินของแอร์เอเชีย จากสนามบินนานาชาติดอนเมือง ไปลงที่ สนามบินนานาชาติเตินเซินเญิ้ต (สนามบินโฮจิมินห์) โหลดน้ำหนักกระเป๋าได้ 20 กิโล มีอาหารเสิร์ฟพร้อม ใช้เวลาบินแค่ 1 ชั่วโมงกว่าก็ถึงสนามบินนานาชาติเตินเซินเญิ้ต ออกมาเกตมาจะเห็นร้านขายซิมการ์ด ทริปนี้เราไปกัน 2 คน ซื้อซิมมา 2 อันใช้คนละเครื่อง ซิมจะเป็นซิมการ์ดเล่นอินเทอร์เน็ตได้อย่างเดียวไม่สามารถโทรออกได้ เอาเข้าจริงๆก็ไม่รู้จะโทรไปไหนอ่ะนะเพราะโทรได้แค่ในประเทศเวียดนาม ความเร็วสูงสุด 4 Gb ใช้ได้ 7 วัน ราคา 200,000 ด่ง/1 ซิม เป็นเงินไทยก็ตกราคาซิมละ 270 บาท และนั่งรถโดยสารจากสนามบินไปลงที่สถานีขนส่ง Mien tay โดยขึ้นรถโดยสารหมายเลข 119 ไปลง ค่ารถ 20,000 ด่ง (27 บาท)

เกิ่นเทอ Can tho

สำหรับการเดินทางไปเกิ่นเทอ Can tho โดยรถโดยสารต่อ เมื่อถึงสถานีขนส่ง Mien tay แล้วให้เดินหาตู้ขายตั๋วที่ชื่อว่า Phuong Trang เป็นรถบัสของ Futa Bus Lines จากที่เคยหาข้อมูลมารถบัสของบริษัทนี้เราว่าเวิร์คสุดแล้วแหละ รถบัสที่นี่จะไม่เหมือนรถบัสของบ้านเราตรงเบาะ เบาะในรถบัสนั้นจะเป็นเบาะเอนนอนทั้งคันเลย ถามว่าโอเคมั๊ยกับเบาะ เราว่าโอเคนะ แต่คงจะไม่โอเคสำหรับตัวสูง หรือคนขายาวๆ เพราะขาจะยันเบาะคนข้างหน้าจะทำให้นอนได้ลำบาก และอีกอย่างเลยก่อนขึ้นต้องถอดรองเท้าก่อนขึ้นด้วยนะ เราก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละ ฮ่าๆๆ จากสถานีขนส่ง Mien tay ถึงสถานีขนส่งเกิ่นเทอ ใช้เวลาเดินทางเกือบ 3 ชม. มีจอดพักรถระหว่างทางหนึ่งที่ ค่ารถ 120,000 ด่ง (162 บาท) เมื่อถึงสถานีขนส่งเกิ่นเทอ เราเดินทางเข้าที่พักกันก่อนเลย จากสถานีขนส่งเกิ่นเทอไปที่พักเราใช้บริการรถแท็กซี่ 62,000 ด่ง (84 บาท) เท่านั้นเอง

เกิ่นเทอ Can tho

ที่พักเราอยู่ในถนน Đề Thám ชื่อ Nhà nghỉ DÌ BA (Mrs 3 guesthouse) อยู่กลางเมืองเกิ่นเทอเลยใกล้กับแหล่งท่องเที่ยว และแหล่งของกินมากมายเลยด้วย ห้องพักนี้เราจองจากแอฟ Booking ได้มาในราคาที่แสนถูก ประมาณ 220,000 ด่ง (300 บาท) สำหรับ 1 คืนเท่านั้นเอง นอนได้ 2 คนพอดี มีห้องน้ำส่วนตัว  ในห้องก็มีพวกสบู่ แชมพู แปลงสีฟัน น้ำดื่ม มี Free Wifi ผ้าเช็ดตัว เป็นห้องพักเล็กๆ ไม่แออัดมาก แต่บันไดทางขึ้นชัน และแคบพอสมควรเลย เวลาขึ้น – ลงบันไดต้องระวังมากๆ ไม่งั้นเจ็บตัวแน่นอน  หลังจาก Check in ที่พัก เปลี่ยนชุดเรียบร้อยที่เที่ยวแรกเลยที่เราจะไปกันที่ Phat Hoc Pagoda หรือเรียกอีกอย่างว่า “เจดีย์ภัทรหมอก” 

ที่อยู่ที่พัก : >>คลิก<<

เกิ่นเทอ Can tho




Phat Hoc Pagoda  (เจดีย์ภัทรหมอก)

เจดีย์นี้ตั้งอยู่บนถนนสายหลัก หรือกลางสี่แยกเมืองเกิ่นเทอเลย เป็นเจดีย์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบจีนสวยงาม เจดีย์จะมีทั้งหมด 5 ชั้น และในแต่ชั้นนั้น จะมีเทพแต่ละองค์อยู่ประจำชั้น ชาวเวียดนามส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาคริส แต่จะมีบางกลุ่มที่นับถือศาสนาพุทธ มักมาจะกราบไหว้ ขอพร สักการะกันที่เจดีย์แห่งนี้

การเดินทาง : เดินเท้าจากที่พัก Nhà nghỉ DÌ BA (Mrs 3 guesthouse) ไปประมาณ 110 เมตร

เกิ่นเทอ Can tho

เจดีย์ภัทรหมอกจะอยู่ใกล้กับสี่แยกไฟแดงเกิ่นเทอมองจากปากซอยเข้าที่พักไปจะเห็นอยู่ฝั่งตรงข้าม

เกิ่นเทอ Can tho

เทพประจำประตูทางเข้า

เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho

หลังจากที่เราเดินสักการะเทพในแต่ละชั้นไปแล้ว ก็ไปที่ต่อไป

Ho Chi Minh Monument (สวนสาธารณะโฮจิมินห์เกิ่นเทอ)

สถานที่นี้เป็นสวนสาธารณะที่มีรูปท่านโฮจิมินห์ยืนเด่นอยู่กลางสวน สวนแห่งนี้เป็นสวนที่มีนักท่องเที่ยว และชาวบ้านที่นี่มานั่งเล่น ออกกำลังกาย รับลมเย็นๆกัน และยังเป็นสถานที่พบป่ะ นัดเจอสำหรับกลุ่มวัยหนุ่มสาวกันอีกด้วย ในยามเย็นๆแบบนี้สวนนี้คนจะเยอะพอสมควรเลย

การเดินทาง : เดินเท้าจาก Phat Hoc Pagoda  (เจดีย์ภัทรหมอก) ไปประมาณ 650 เมตร

เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho

เรานั่งเล่นกันได้อยู่สักพักก็ใกล้จะมืด เรามีแผนที่จะต้องไปกันอีกให้ได้อีก 3 ที่ -เกิ่นเทอ Can tho

Ong Temple (วัดอ่อง)

สถานที่แห่งนี้เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมจีนล้วน ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำเกิ่นเทอ ประวัติความเป็นมาของวัดอ่องที่เราได้ฟังจากเพื่อนไกด์ชาวเวียดนาม คือ วัดอ่องแห่งนี้เดิมสร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 19 เพื่อบูชา Kuang Kung เทพที่เป็นสัญลักษณ์ของความภักดี ความยุติธรรมเหตุผล ความฉลาด ความมีเกียรติ และความกล้าหาญ  และด้านขวาของเทพ Kuang Kung จะเห็นเทพีแห่งโชคลาภเทพเจ้าแห่งการเงิน และด้านซ้ายของเทพ Kuang Kung เป็นท่านแม่เตียน เทพเจ้าแห่งดิน

การเดินทาง : เดินเท้าจาก Ho Chi Minh Monument (สวนสาธารณะโฮจิมินห์เกิ่นเทอ) ไปประมาณ 17 เมตร 

เกิ่นเทอ Can tho

หน้าวัดอ่องจะมีชาวบ้านเข้ามาสักการะตลอดอย่างไม่ขาดสายเลย

เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho

ภายในวัดอ่อง

เกิ่นเทอ Can tho

ธูปวนที่จุดจะแขวนไว้ด้านบนของวัดอ่อง จะมีเยอะมากหันซ้ายหันขวาก็มีแต่ธูปวน

เกิ่นเทอ Can tho

เทพ Kuang Kung ที่ชาวบ้านนับถือ และกราบไหว้ขอพร

v

เห็นชาวบ้านสักการะ ขอพร เราก็ขอบ้างเพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ตัวเอง – เกิ่นเทอ Can tho

เกิ่นเทอ Can tho

หลังจากชมความงดงาม และสักการะเทพทั้ง 3 องค์แล้วเราไปกันต่อที่ตลาดเกิ่นเทอตอนกลางคืน

Can Tho Night Market (ตลาดเกิ่นเทอตอนกลางคืน)

เป็นตลาดนัดตอนกลางคืนที่มีทุกวัน อยู่ติดกับสวนสาธารณะเกิ่นเทอเลย ตลาดนัดที่นี่จะเน้นขายเป็นเสื้อผ้า และเครื่องประดับส่วนใหญ่ ชาวต่างชาตินิยมมาเดินเลือกซื้อของกัน ความรู้สึกส่วนตัวเลยนะที่จริงเราว่าเสื้อผ้าที่นี่ราคาพอๆกับบ้านเราเลย บางตัวแอบแพงนะแต่ก็เข้าใจว่าราคาชาวต่างชาติ ก็เหมือนบ้านเราขายให้ต่างชาติแหละ ฮ่าๆๆ และสุดท้ายก็ได้หมวกเวียดนามมา 1 ใบในราคา 30,000 ด่ง (41 บาท) เพราะพรุ่งนี้เรามีแผนจะไปตลาดน้ำเกิ่นเทอตอนเช้า ก็ต้องแต่งตัวให้เข้ากับบรรยากาศสักหน่อย ข้างๆตลาดนัดจะมีร้านนั่งดื่มมากมาย  แต่ที่เตะตาที่สุดคือร้านน้ำแข็งใส ที่เป็นน้ำแข็งใสราดด้วยน้ำโกโก้เข้มข้น และชามัทฉะเข้มข้น สามารถเลือกได้ว่าจะทานโกโก้ หรือ ชามัทชะ พร้อมท็อปปิ้งโรยหน้า 2 – 3 อย่าง อร่อยมากใครได้ไปต้องลอง!

การเดินทาง : เดินเท้าจาก Ong Temple (วัดอ่อง) ไปประมาณ 10 เมตร 

เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho

นี่ไงร้านน้ำแข็งใสโกโก้เข้มข้ม ชื่อร้าน BAO

เกิ่นเทอ Can tho

ท็อปปิ้งโรยหน้าแบบแน่นๆ

เกิ่นเทอ Can tho

ก่อนกินดูหน้าตาด้วยว่าเบิกบานขนาดไหนที่ได้กินของหวานอ่ะ หลังจากที่เดินเหนื่อยกันมาได้โด๊ฟของหวานเติมพลังก่อนไปต่อที่สุดท้ายคือสะพานเดนกิล

Cầu đi bộ Bến Ninh Kiều (สะพานเดนกิล)

สะพานที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเกิ่นเทอ ชาวเกิ่นเทอและนักท่องเที่ยวชอบมาเดินเล่นรับลมกันที่นี่ สะพานเดนกิลจะประดับไฟหลากหลายสีสันมาก ตั้งแต่ต้นสะพานจนถึงท้ายสะพานเลย สว่างทั้งสะพานจริงๆ กลางสะพานเป็นเหมือนดอกบัวบานแต่เราไม่รู้ความหมายของสะพานแห่งนี้ว่าทำไมถึงต้องเป็นสัญลักษณ์ดอกบัวบาน ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปตอนกลางคืน และนั่งพักผ่อนรับลมเย็นๆกันด้วย คือลมพัดได้ตลอดเวลาจริงๆ

การเดินทาง : เดินเท้าจาก Ho Chi Minh Monument ประมาณ 200 เมตร

เกิ่นเทอ Can thoเกิ่นเทอ Can tho

กลางสะพานที่เราคิดว่าน่าจะเป็นดอกบัวบาน เพราะเราไม่แน่ใจว่าต้องเรียกอะไรเพราะมันเหมือนดอกบัวมาก เลยเรียกดอกบัวแล้วกัน ฮ่าๆๆ

เกิ่นเทอ Can tho

ยืนแอ็คสวยๆ เก๋ๆ ถ่ายไฟประดับบนสะพาน

เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho

มุมไหนก็สวย ไม่รู้คนรึสะพานนะ แต่เราว่าคนมากกว่า ฮ่าาๆๆ

เกิ่นเทอ Can tho

รูปนี้ถ่ายจากท้ายสะพานจะติดตึกโรงแรมก็สวยไปอีกมุม อยู่ที่นี่ได้สักพักก็เริ่มหิวก่อนเข้าที่พักได้แวะทานก๋วยเตี๋ยวกันข้างๆ Phat Hoc Pagoda (เจดีย์ภัทรหมอก) จะมีร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆที่เปิดอยู่ริมฟุตบาท ไม่มีชื่อร้าน แต่ขอบอกไว้เลยว่าอร่อยมากกกกกก เส้นก๋วยเตี๋ยวนุ่มมาก รสชาติถูกปากด้วย แทบจะไม่ต้องปรุงอะไรเลย ถ้าใครตามได้ทานแล้วอย่าลืมซื้อน้ำอ้อยมะปี๊ด ร้านข้างๆกันมาทานด้วยนะ เข้าก๊นเข้ากันมากๆ ทานกัน 2 คนหมดไป 60,000 ด่ง (81 บาท) เอง

เกิ่นเทอ Can tho

ซ้ายมือของรูปเป็นร้านน้ำอ้อยมะปั๊ด ขวามือเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวรสแซ่บ

เกิ่นเทอ Can tho

หน้าตาก็จะประมาณนี้เลย

เกิ่นเทอ Can tho

ได้มาแล้วแทบจะไม่ต้องปรุงอะไรเลย ที่สะดุดตาที่สุดก็คือเครื่องปรุงนี่แหละ บ้านเราจะใช้น้ำส้มสายชูเพิ่มความเปรี้ยวแต่ที่นี่จะใช้ส้มมะปี๊ดเพิ่มความปรี้ยว และพริกบ้านเราจะเป็นพริกป่นผงๆ แต่ที่นี่จะเป็นแบบตำละลายน้ำมาเลย ฮ่าๆๆ อร่อยอิ่มพร้อมเข้านอนมากกก


22/02/2562

วันนี้เราจะออกไปเที่ยวกันต่อกับตลาดน้ำชื่อดังของเมืองเกิ่นเทอนั่นคือ Cai Rang Floating Market (ตลาดน้ำเกิ่นเทอ) ก่อนไปเราได้สอบถามข้อมูลจากทางที่พักว่า ต้องขึ้นเรือที่ไหน ไปยังไง ก็ได้ข้อมูลมาว่าสามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าน้ำใกล้กับสวนสาธารณะเกิ่นเทอเลย เจ้าของที่พักเลยอาสาจองให้ตั้งแต่เมื่อคืนก่อนเข้านอน พร้อมกับแนะนำให้ขึ้นเป็นเรือส่วนตัวดีกว่า สำหรับเรือ 1 ลำที่เป็นแบบส่วนตัวนั้นราคา 300,000 ด่ง (400 บาท) ถือว่าคุ้มมากๆ เพราะเรือได้ไปทั้งตลาดน้ำเกิ่นเทอที่เดียว บ้านทำเส้นก๋วยเตี๋ยวชื่อดังอย่าง Sáu Hoài Rice Noodle Factory และล่องชมแม่น้ำเกิ่นเทอ ถ้าใครไม่ชอบแบบส่วนตัวยังมีเรือสำหรับนักท่องเที่ยวคนละ 50,000 ด่ง (68 บาท) ต่อคน จะเป็นเรือที่นั่งรวมไปกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ และนั่งไปได้แค่ตลาดน้ำเกิ่นเทอที่เดียวใครชอบแบบ Privte ก็จัดเลย พอถึงเวลา ตี5 เป็นเวลานัดที่เราจะต้องลงเรือจะต้องไปก่อนแสงเช้าขึ้น เพราะตลาดน้ำจะเริ่มขายกันแต่เช้าตรู่เลย

การเดินทาง : สามารถติดต่อนั่งเรือไปตลาดน้ำเกิ่นเทอจากที่พักได้เลย หรือสามารถไปจองที่ท่าเรือใกล้กับสวนสาธารณะเกิ่นเทอก็ได้เช่นกัน แต่แนะนำไว้อย่างหนึ่งเลยคือห้ามมัดจำเรือเด็ดขาด! ไม่งั้นวันรุ่งขึ้นอดไปแน่นอนค่ะ

เกิ่นเทอ Can thoเกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho

ที่ตลาดจะมีทั้งผัก และผลไม้ หลักๆจะเป็น สับปะรด, แก้วมังกร, แตงโม, มันเทศ และกะหล่ำปลี เป็นสินค้าที่โดดเด่นที่สุดในตลาดน้ำเกิ่นเทอ และยังมีอาหารเช้าแบบเวียดนามที่น่าลิ้มลองอย่างก๋วยเตี๋ยวข้าวที่เรียกว่า “ บุญ ” หรือ “ หูเต๋อ” ให้ทานในยามเช้ากันด้วยนะ ได้มาแล้วเราก็ต้องมาลองว่าจะแซ่บขนาดไหน

เกิ่นเทอ Can thoเกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho

หน้าตาก๋วยเตี๋ยวข้าวที่เรียกว่า “ บุญ ” หรือ “ หูเต๋อ”

เกิ่นเทอ Can tho

ได้มาแระ “ บุญ ” หรือ “ หูเต๋อ” ในราคาถ้วยละ 60,000 ด่ง (81 บาท) เป็นก๋วยเตี๋ยวที่ใส่เส้นขนมจีน มีเนื้อหมู และมีท็อปปิ้ง 3 อย่างเป็นผักโรยหน้าอยู่มี ถั่วงอก แครอล และผักชี ก็อร่อยนะถือว่าผ่าน

เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho

สักแปปจะมีเรือมาเทียบข้าง เป็นเรือขายน้ำชา กาแฟ คือขายน้ำทั้งลำอ่ะ เราเลยสั่งกาแฟ ลองชิมหยดแรกสัมผัสปลายลิ้นเท่านั้นแหละ ถึงกับร้องเห้ย! ทำไมมันดีแบบนี้อ่ะแแกรรรร กาแฟบ้าบออะไรทำไมรสชาติเข้มข้นดีจัง ขอบอกเลยว่ากาแฟที่นี่อร่อยมากกกกกกกจริงๆ ไม่เหมือนกาแฟที่ไหนเลย แก้วละ 10,000 ด่ง (14 บาท) เท่านั้นเอง

เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho

อ่ะลืมๆ เราจะบอกจุดสังเกตว่าเรือแต่ละลำนั้นขายอะไรกันบ้าง นี่ๆในรูปนี้เห็นอะไรที่เสียบไม้ไว้ไหม นั่นแหละคือของที่ขายอยู่บนเรือ อย่างเช่นเรือลำนี้ก็จะมีผัก เช่น แครอล กระหล่ำ ฯ เป็นไงสังเกตง่ายๆเลยใช่มั๊ยล่ะ  และแล้วเราก็ร่องเรือผ่านตลาดไปต่อกันที่ Sáu Hoài Rice Noodle Factory (บ้านทำเส้นก๋วยเตี๋ยว)

Sáu Hoài Rice Noodle Factory (บ้านทำเส้นก๋วยเตี๋ยว)

หลังจากที่เที่ยวตลาดน้ำเกิ่นเทอแล้วเรือจะพามากันต่อที่บ้านทำเส้นก๋วยเตี๋ยว ที่นี่เป็นทั้งบ้าน โรงงานทำเส้นก๋วยเตี๋ยว และที่พัก บ้านทำเส้นก๋วยเตี๋ยวนี้อยู่ใกล้กับแม่น้ำเกิ่นเทอ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมตลอดทั้งวัน มีการสาธิตวิธีทำเส้นก๋วยเตี๋ยวให้แก่นักท่องเที่ยวได้ชมตั้งแต่วิธีแรกจนถึงวิธีสุดท้ายพร้อมขายกันเลย และยังให้ทำเองได้ด้วย

เกิ่นเทอ Can thoเกิ่นเทอ Can thoเกิ่นเทอ Can thoเกิ่นเทอ Can thoเกิ่นเทอ Can thoเกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho

และแล้วคุณลุงเจ้าของก็โชว์วิธีการทำเส้นก๋วยเตี๋ยว ลักษณะการทำให้เทน้ำแป้งฉาบไปบนผ้าเหมือนอบขึ้นรูป และทิ้งไว้ไม่ถึงนาทีก็ใช้ไม้ม้วนแผ่นขึ้นก่อนนำไปตาก ดูๆไปเหมือนก๋วยเตี๋ยวปากหม้อบ้านเราเลย ฮ่าๆๆ

เกิ่นเทอ Can tho

มาถึงเราโชว์ออฟบ้าง ฮ่าๆ ดูท่าเหมือนเป็นนะ แต่ก็เป็นเพราะมันง่ายมากแค่เทน้ำแป้งแล้วฉาบวนๆเท่านั้นเอง

เกิ่นเทอ Can tho

ทิ้งไว้สักแปปก็นำมาตากให้แห้ง เป็นไงล่ะจิ๊บๆ

เกิ่นเทอ Can tho

อยู่ที่บ้านทำก๋วยเตี๋ยวได้สักพักเราก็ไปร่องเรือกันต่อ ก่อนจะขึ้นท่าและไปสถานที่ต่อไป

เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho

ใช้เวลาร่องเรือกลับผ่านลำน้ำเกิ่นเทอประมาณครั้งชั่วโมงเราก็ไปกันต่อที่ Bảo Tàng Quân Khu 9 (พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ – เขตทหาร 9)

Bảo Tàng Quân Khu 9 (พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ – เขตทหาร 9)

เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ทางการทหารมีหน้าที่รับผิดชอบการวิจัยรวบรวมสะสมจัดแสดง ถึงกระบวนการก่อสร้างการต่อสู้ของกองกำลังภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ ในสาเหตุของการต่อสู้เพื่อการปลดปล่อยแห่งชาติการรวมประเทศการก่อสร้างและการป้องกันของปิตุภูมิ คือว่ากันง่ายๆ เป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ทางทหารของเกิ่นเทอนั่นแหละ

เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho

ปืนต่อต้านรถถัง 76.2 มม. ติดตั้งไว้ที่ 339 QK9 หน่วยทหารราบในการต่อสู้เพื่อคุณและภารกิจระหว่างประเทศ

เกิ่นเทอ Can tho

เฮลิคอปเตอร์ UH-1A ถูกยิงโดยฮีโร่ LLVT เหงียนเวียคอนยิงลงโดยกองโจรใน Tan Hung, Cai Nuoc และ Ca Mau ในวันที่ 20 ธันวาคม 1962

เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can thoเกิ่นเทอ Can tho

จากที่เดินประวัติศาสตร์ทางการทหารในพิพิธภัณฑ์ เราไม่รอช้าเพราะเรายังเหลืออีก 3 ที่ที่ต้องไป

Nam Nha Pagoda (เจดีย์น้ำญา)

เป็นเจดีย์ที่ทรงเหมือนบ้านเดี่ยวเลย มีชื่อเสียงในเรื่องความงามของสถาปัตยกรรมและความเงียบสงบ ยังมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมากมายเกิดขึ้นในสมัยนั้น ดังนั้นที่นี่จึงเป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวในเมืองเกิ่นเทอที่ต้องมาสัมผัสกันให้ได้ แต่แอบเซงเพราะภายในไม่อนุญาติให้ถ่ายรูป ถ่ายได้แต่ภายนอกเท่านั้นเองอ่ะ คือภายในมันสวยมากอ่ะแต่ถ่ายรูปไม่ได้ อยากจะเอามาอวดเหมือนกัน คงต้องตามไปชมกันเองแล้วล่ะ เอ้อและการเดินทางมาที่เจดีย์น้ำญานั้นเราเดินทางโดยการใช้บริการ Grab เพราะที่นี่ห่างออกมาจากเมืองเกิ่นเทอประมาณ 5 กิโลเมตรเลย จะให้เดินมาก็คงไม่ไหวมีเป็นลมแน่ๆ เพราะอากาศร้อนเท่าเมืองไทยเลย

การเดินทาง : นั่ง Grab จาก Bảo Tàng Quân Khu 9 (พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์ – เขตทหาร 9) มาลง 75,000 ด่ง (101 บาท)

เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho

เก็บมาให้ชมกันได้ 2 รูป ด้านในถ่ายไม่ได้เราก็ไม่ง้อไปกันต่อเลยที่ Bình Thủy temple (วัด Binh Thuy) ไม่ไกลกันมากเดินไปได้

Bình Thủy temple (วัด Binh Thuy)

วัดนี้ตามประวัติเท่าที่พอจะหามาได้สร้างขึ้นในปี 1844 เพื่อนมัสการผู้ปกครองหมู่บ้าน Binh Hung ตามตำนานเล่าว่าในปี พ.ศ.2395 หัวหน้าคณะรัฐมนตรีจังหวัดแมนดาริน Huynh Man Dat เขาได้พบกับพายุใหญ่ในแม่น้ำ Hau เรือของเขาถูกซ่อนอย่างปลอดภัยโดยผู้ปกครองหมู่บ้าน Binh Hung ในคลอง Binh Hung หลังจากนั้นเขาเลยตั้งชื่อหมู่บ้าน Binh Thuy และเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ สถานที่แห่งนี้เลยได้รับการยกย่องให้เป็นอนุสรณ์แห่งชาติสถาปัตยกรรมศิลปะในปี 1989 และมาแอบเซงอีกสถานที่นี้ก็ไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปด้านในเหมือนกัน ฮ่าาๆ แต่ภายนอกสวยไม่แพ้ด้านในเลย

การเดินทาง : เดินเท้าจาก Nam Nha Pagoda (เจดีย์น้ำญา) ไปประมาณ 250 เมตร

เกิ่นเทอ Can tho

มองมาจาก Nam Nha Pagoda (เจดีย์น้ำญา) จะเห็น Bình Thủy temple (วัด Binh Thuy)

เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can thoเกิ่นเทอ Can tho

อากาศร้อนคนน่ารักก็เลยจะเปรี้ยวหน่อยๆ ไม่ใช่ไรที่เปรี้ยวๆอ่ะ คือเหม็นเปรี้ยวจากเหงือนี่แหละ เกิ่นเทอแดดแร๊งเกิ๊นอ่ะแกรแต่เพื่อความสวยงามของสถานที่แล้วต้องไปต่อ ฮ่าาๆ

ก่อนจะไปสถานที่สุดท้ายของวันนี้คือ Binh Thuy Ancient House (บ้านโบราณบินห์ถ่อหยี) ระหว่างเดินไปบ้านโบราณบินห์ถ่อหยีถึงเวลาที่ต้องเติมพลังกันหน่อย ในซอยจะมีร้านขนมครก ได้ขนมครกไส้ถั่วเขียวมาทานแทน เลยไปอีกไม่ไกลก็เจอร้านก๋วยเตี๋ยวหลอด ทานพอดีคำกำลังอิ่ม ทั้ง 2 ร้านนี้รวมกันหมดไปแค่ 46,500 ด่ง (63 บาท) รวมน้ำเปล่าด้วยนะ

เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho

พอมีอะไรให้ทานกันบ้างแล้วก็เหลืออีกที่นึงที่เราต้องไปของวันนี้เลย

Binh Thuy Ancient House (บ้านโบราณบินห์ถ่อหยี)

เราไปค้นปวัติบ้านโบราณนี้มาได้ความมาว่าบ้านหลังนี้สร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1870 เจ้าของบ้านคือ Mr. Duong Chan Ky พ่อค้าทางปัญญาที่ร่ำรวยมาก และเป็นเจ้าของที่ดินแห่งนี้ เขาเลยสนใจที่จะมองหาสิ่งใหม่ๆ ที่มาจากกระแสนิยมทางตะวันตกโดยเฉพาะในด้านสถาปัตยกรรมต่างๆจึงเกิดเป็นบ้านหลังนี้ขึ้นมา ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่มาสามารถเห็นความกลมกลืนระหว่างวัฒนธรรมตะวันออก และวัฒนธรรมตะวันตกได้ภายในบ้านทั้งหมดเลย บ้านล้อมรอบด้วยต้นไม้ ดอกไม้ จำนวนมากที่บานตลอดเวลา และด้านข้างของตัวบ้านยังมีสวนกล้วยไม้นานชาติหลายพันธ์ด้วย ที่นี่มีค่าเข้าชมด้วยนะจ๊ะ คนละ 20,000 ด่ง (55 บาท)

การเดินทาง : เดินเท้าจาก Bình Thủy temple (วัด Binh Thuy) ไปประมาณ 750 เมตร

เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho

ด้านในบ้านจะมีเฟอนิเจอร์ตั้งแต่ยุคตะวันออก และยุคตะวันตกอยู่หลายชิ้นมาก

เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho เกิ่นเทอ Can tho

จบการเที่ยวเกิ่นเทอไปในวันสุดท้ายนี้แล้วก็ใช้บริการ Grab กลับมาเข้าที่พัก ราคา Grab 73,000 ด่ง เป็นเงินไทย (98 บาท)

หลังจากที่เตรียมกระเป๋าเก็บของ Check Out เพื่อเตรียมตัวบินกลับไทยเพราะเราบินกลับไฟล์ท 21.35 น. เราหาอะไรทานรอรถตู้มารับไปสถานีขนส่งเกิ่นเทอ เมนูก่อนกลับวันนี้คือ ข้าวมันไก่ แต่ข้าวมันไก่ที่นี่ไม่เหมือนบ้านเรานะแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง รสชาติถือว่าใช้ได้นะทานกัน 2 คนหมดไป 43,000 ด่ง (58 บาท) และโดนเต้าทึ่งเย็นอีก 1 แก้วใหญ่ 18,000 ด่ง (24 บาท)

เกิ่นเทอ Can thoเกิ่นเทอ Can tho

เราลืมบอกไปว่ารถโดยสารที่นั่งสถานีขนส่งเกิ่นเทอนั้น นั่งฟรีจากที่เราพักได้เลยนะแต่ต้องให้เจ้าของพักเป็นคนติดต่อรถ รถจะมาทุกๆ 1 ชั่วโมง ถ้าใครรีบแนะนำใช้บริการ Grab ได้เลย หน้าตารถตู้ก็จะเป็นแบบด้านบนนี้ -เกิ่นเทอ Can tho


หลังจากเดินทางจากสถานีขนส่งเกิ่นเทอ ให้เดินหาตู้ขายตั๋วที่ชื่อว่า THANH BUOI สังเกตง่ายๆเมื่อเดินเข้าไปแล้วให้หันหน้าเข้าตู้ขายตั๋ว ตู้ขายตั๋วจะอยู่ตู้ที่สามนับขวามือสุดของเราเดินไปซื้อได้เลยจ้า เหมือนเดิมกับขามาเลยเป็นเบาะเอนนอนทั้งคัน จากสถานีขนส่งเกิ่นเทอ ถึงสถานี Mien tay ค่ารถ 120,000 ด่ง (162 บาท) ใช้เวลาเดินทางเกือบ 3 ชั่วโมง พอๆกับขามาเกิ่นเทอ

เกิ่นเทอ Can thoเกิ่นเทอ Can tho

ลงรถแล้วให้มองหารถโดยสารไปสนามบินนานาชาติเตินเซินเญิ้ต โดยหมายเลขรถที่ไปสนามบินจะมี 119 , 109 , 152 ขึ้นเลยไปจ้า ค่ารถ 20,000 ด่ง (27 บาท) ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงก็ถึงสนามบิน และขากลับไทยเราได้ใช้บริการสายการบินของแอร์เอเชียเหมือนเดิมเลย โดยเครื่องลำเล็ก FD 659 เป็นที่นั่งจะเป็นแบบ 3 – 3 เหมือนตอนขามา โหลดน้ำหนักกระเป๋าได้ 20 กิโล มีอาหารเสิร์ฟ เช่นกัน  ต้องขออภัยไปด้วยหลังจากนี้เราไม่ได้เก็บภาพมาเลย ซอรี่นะ

เกิ่นเทอ Can tho

ก็เดินทางถึงไทยเวลา 23.10 น. โดยสวัสดิภาพ จบทริปอย่างปลอดภัยหายห่วง

รีวิวเที่ยวเกิ่นเทอเมืองตลาดน้ำแห่งเวียดนาม 2 วัน 1 คืน




มาถึงประเด็นเด่นก่อนจากกัน เมื่อได้มาเที่ยวเมืองตลาดน้ำเกิ่นเทอแห่งประเทศเวียดนามแล้ว สิ่งที่ต้องควรระวังอย่างมากเลยคือ

  • ข้ามถนนต้องเดินข้ามแบบระมัดระวัง เพราะรถที่นี่ไม่จะจอดให้นะจ๊ะ ถ้าข้ามแล้วห้ามหยุดชะงักไม่งั้นมีบวกกันมอเตอร์ไซค์ที่ขับมาแน่นอน
  • ถึงแยกที่มีไฟแดง รถไม่ได้จอดหยุดไฟแดงทุกคันนะ เพราะฉะนั้นต้องมองซ้ายมองขวาดีก่อนข้าม
  • ไม่ควรวางสิ่งของมีค่าไว้ไกลตัวเอง แม้กะทั่งวางให้เห็นต่อหน้าก็ไม่ควร ทางที่ดีควรเก็บใส่กระเป๋าสะพายไปเลยดีที่สุด
  • ไม่ควรไปไหนมาไหนคนเดียวตอนกลางคืน ถ้าจะออกไปไหนมาไหนตอนกลางคืนควรมีเพื่อนไปด้วย
  • ถ้าจะนั่งทานก๋วยเตี๋ยวตามร้านข้างทาง ต้องดูดีๆถึงดีที่สุดไม่งั้นอาจจะได้นั่งทานเนื้อสุนัขก็เป็นได้นะ

และสิ่งสุดท้ายเลยที่ประทับใจมากที่สุด คือผู้คนที่นี่น่ารักมากๆ เป็นกันเอง ส่วนใหญ่จะพูดภาษาอังกฤษกันไม่เป็นเลยนะ ก็มีหลายครั้งที่เราสั่งอาหารเป็นภาษาอังกฤษบางร้านจะไม่เข้าใจ ว่าเราต้องการอะไรฝากเทคนิคดีๆไว้เลยแล้วกัน ให้มองตามโต๊ะที่ชาวบ้านเค้าทานกันแล้วชี้ๆสั่งได้เลย แต่ไม่ใช่ไปชี้ๆ ใกล้ๆหน้าตอนเค้าทานนะ โดนตีมือแตกแน่ ฮ่าๆๆๆ ถ้าร้านไหนมีเมนูภาษาอังกฤษพร้อมกับรูปก็โชคดีไป

ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และติดตามมาถึงบทความสุดท้ายนี้ สำหรับใครที่ชอบ รบกวนช่วยแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้เราในการทำรีวิวครั้งต่อๆไปด้วยนะ


รีวิวอื่นๆ

1.รีวิวเที่ยวไทเป ตะลุยกินชาไข่มุก “ไต้หวัน” 7 วัน 6 คืน กับแก๊งค์เพื่อน

2.รีวิวเที่ยวซัปโปโร เล่นหิมะหน้าหนาว บิน THAI AIRASIA X (WINTER IN HOKKAIDO)

3.รีวิวเที่ยว มาชูปิกชู MACHU PICCHU : EP2 การเดินทางขึ้นสู่ มาชูปิกชู

Facebook Comments

Leave a Comment