รีวิวเที่ยวฮานอย ฮาลองเบย์ เวียดนาม 5 วัน 4 คืน กำเงินไปแค่ 4000 บาท ก็เที่ยวได้
แถมนอนโรงแรม 4 ดาวพร้อมอาหารเช้า และ One day trip ที่ฮาลองเบย์
#เวียดนามครั้งเดียวไม่เคยพอ
สงสัยมานานว่าทำไมพี่คนรู้จักถึงไปเวียดนามบ่อยมาก ๆ ทีนี้เจอกับตัวเองแล้วครับ พอไปแล้วอยากไปอีกหลายๆ รอบเลย
สวัสดีครับ หลังจากที่แอดได้ไปเที่ยว ฮานอย กับเพื่อน ๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คือ วันที่ 6-10 กรกฎาคมที่ผ่านมาวันนี้แอดขอรีวิวเที่ยวอานอยกันซักหน่อยนะครับ สำหรับใครที่ยังไม่เคยไปหรือไปมาแล้วหรือมีแผนจะไปเร็วๆนี้เรามาดูกันครับว่าทริปที่พวกเราไปกันนั้นจะมีอะไรน่าสนใจกันบ้างครับ
ก่อนอื่นแอดขอบอกว่าก่อนว่านี่คือครั้งแรกของทุกคนที่ไปฮานอยเวียดนามครับเพื่อนคนอื่นๆก็มีเคยมาเวียดนามบ้างแล้วแต่ก็เป็นเมืองอื่นๆเลยถือว่าทริปนี้เป็นทริปที่ใหม่แกะกล่องเลยก็ว่าได้ เวียดนามผมเคยได้ยินมาตั้งแต่เด็ก ๆ ในหลาย ๆ เรื่อง ทั้งในเรื่อง ที่ไม่ดีบ้าง และเรื่องที่ดี ปนกันไป ซึ่งก่อนหน้าก็ยังไม่มีแผนว่าจะอยากมาเทียวเวียดนาม มีพี่ที่รู้จัก ที่ชอบไปเวียดนามเอามาก ๆ ไปได้ตลอดขอแค่มีเวลา และว่าง จนวันนี้หลังจากที่ไปมาแล้ว ก็ได้รู้แล้วครับว่า ทำไมถึงชอบไป เพราะที่นั่นค่าครองชีพถูกกว่าที่ไทยมาก อาหารก็ถูกปากคนไทย กาแฟ คาเฟ่ดี สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์วัดวาอารามและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติสวยงามที่เป็นมรดกโลกคืออ่าวฮาลองเบ
สรุปคือเที่ยวแบบคุ้มค่าแถมประหยัดงบอีกด้วยครับเท่านี้ยังไม่พอเดี๋ยวมาต่อกันในรีวิวนะจ๊ะ
แผนการเดินทางและสถานที่ท่องเที่ยว
วันเดินทาง 6-10 Jul 2019
[Day1 ] 06/072019
- ออกเดินทางด้วยสายการบิน VietJet Airline เที่ยวบิน VJ902 เวลา 14:00 (BKK) สุวรรณภูมิ -15:50 Hanoi(HAN)
- เดินทางเข้าเมือง ฮานอย
- Check in โรงแรม Golden Silk Boutique Hotel (โรงแรม 4 ดาว พร้อมอาหารเช้า)
- เดินเที่ยวย่าน Dong Kinh Nghia Thuc Square
[Day2 ] 07/072019
- เที่ยวอ่าวฮะลองเบย์ เป็น Oneday trip ซื้อทัวร์จากโรงแรมไป สะดวกเพราะมีรถมารับส่งที่โรงแรม พร้อมอาหารเที่ยง และเย็น
* เยี่ยมชมฮาลองเบย์ (Ha Long Bay) ซึ่งเป็นอ่าวตกปลาที่มีชื่อเสียงระดับโลกของ เวียดนาม
* ชมโพรงถ้ำที่โดนน้ำกัดเซาะ ที่มีรูปร่างงดงาม
*พายเรือคายัคไปรอบหมู่บ้านชาวประมงบาฮัง (Ba Hang)
[Day3 ] 08/072019
ท่องเที่ยวสถานที่สำคัญ ๆ ในตัวเมืองฮานอย ที่เป็นเอกลักษณ์ของฮานอย เป็น One day trip สามารถเดินได้ รอบ ๆ และนั่งรถนิดหน่อย ดังนี้
- โบสถ์เซนต์โจเซฟ
- Vivienne Cafe Restaurant
- ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม
- วัดหง็อกเซิน
- Trung Nguyen Legend Cafe (มีหลายสาขา)
- สุสานโฮจิมินห์
- วัดเจดีย์เสาเดียว
- พิพิธภัณฑ์โฮจิมินห์
- Hanoi Street Train
- Diamond sky bar
[Day 4 ] 09/072019
- เจดีย์เฉินก๊วก
- วัดกวานแถ่งห์
- วัดก๋วนสือ
- พิพิธภัณฑ์เรือนจำ Hoa Lo
- จิตรกรรมกระเบื้องโมเสค ที่ยาวที่สุดในโลก
- สะพานลองเบียน
[Day 5] 09/072019
เดินทางกลับ เที่ยวบิน VJ901 Hanoi(HAN) เวลา 11:10 – (BKK) สุวรรณภูมิ -13:00
ค่าใช้จ่ายตลอดทริป
อ้างอิงตามตารางครับ (ทริป 5 วัน 4 คืน รวมค่าใช้จ่ายประมาณ 4000 บาทไทย)
*ค่าใช้จ่ายดังกล่าวไม่รวม ค่าตั๋วเครื่องบินเดินทางไปกลับ และค่าชอปสินค้าหรือของฝาก
Day 1
เดินทางจาก (BKK) สุวรรณภูมิ – Hanoi(HAN)
ทริปนี้เราออกเดินทางไปกับ VietjetAir ครับ ถ้าไปเวียดนาม แนะนำเลย สายการบินนี้ ถือว่าเป็นสายการบินที่ประหยัด และขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิ อีกด้วย แต่บางทีก็มีแอบหลง ๆ ลืม ๆ จะคิดว่าต้องไปดอนเมืองซะงั้น ยังไงก็เช็คสนามบินให้ดีนะครับ สำหรับใครที่จะจองตั๋วก็เข้าไปดูได้ที่เว็บไซต์ นี้ครับ http://www.vietjetair.com/Sites/Web/th-TH/Home
รอบนี้ถือว่าบินแบบชิว ๆ ครับ 14:00 ตื่นสายได้ แต่อากาศไม่ค่อยเป็นใจเท่าไหร่ครับ ฝนตกหนักตอนออกเดินทาง ตอนแรกก็ว่าจะนั่งรถไฟฟ้า แต่ฝนดันตกซะก่อน เลยเรียกแท็กซี่ออกมากับกับเพื่อน รถก็ติด แต่ก็มาทันเวลาครับ เพราะเผื่อเวลากันไว้พอสมควร
ระหว่างทางก่อนถึงก็ได้เห็นภูมิประเทศของเวียดนามคือล้อมรอบไปด้วยภูเขาและแม่น้ำที่เขียวชะอุ่มสวยงามไม่แพ้ที่อื่นๆเลยครับมีหมู่บ้านที่สร้างกระจายเป็นหย่อมๆ
จาก กรุงเทพ ถึงอานอย ใช้เวลาบิน ประมาณ 1:30 นาทีครับ นั่งแบบชิว ๆ เหมือนกลับบ้าน ตจว อิอิ
พอมาถึงก็ต้องว้าวกันหน่อยครับเพราะอากาศต่างจากกทมเหลือเกินที่ประสบมาคือฝนตกหนักมากแต่มาที่เวียดนามคือฟ้าเปิดฟ้าวันนี้สวยมากครับ ดูสภาพอากาศมาก่อนแล้วคือฝนไม่ตกเลยแค่นี้ก็เที่ยวต่อได้สนุกแล้วครับ
พอมาถึง ก็ต้องผ่าน ตม เป็นเรื่องปกติครับ ข้อดีคือ ที่นี่ไม่ต้องกรอกข้อมูลอะไรเลย แค่ยื่น passport พอ
การเดินทางเข้าตัวเมือง Hanoi ของที่นี่ หลัก ๆ ก็จะมี รถแท๊กซี่,รถตู้, รถเมล์สาย 86 (อาจจะมีสายอื่น ๆ อีก)
แต่ผมขอแนะนำว่าถ้าของไม่เยอะ แนะนำเป็นรถเมย์ดีกว่าครับ เพราะถูกสุด ประมาณ 45 บาท ต่อคน แต่ถ้ามาหลายคนแนะนำเป็น Taxi สะดวกสุดครับส่งตรงถึงโรงแรมเลยทีเดียว สรุปเราเลือกนั่งรถบัสกันครับ
เมื่อถึงป้ายที่ใกล้โรงแรมที่สุด เราก็ลงกัน จริง ๆ Map จะดูยากหน่อยนะครับ เพราะไมมีบอกว่าให้ลงป้ายไหน ก็เลยสอบถามเจ้าหน้าที่ประจำรถว่าโรงแรมเราลงป้ายไหนดีก็ทันพอดีคือให้ลงป้ายหน้า
จากนั้นก็เดิน เกือบ ๆ 1 กิโลเมตรต่อไปเพื่อเข้าถึงที่พักครับ
ที่พัก โรงแรม Golden Silk Boutique Hotel
ถึงแล้วครับผม โรงแรม ที่พัก รอบนี้ที่พักเราค่อนข้างโอเคเลยครับ เพราะ เราจองได้ราคาพิเศษ มาก ๆ เป็นโรงแรม 4 ดาว พร้อมอาหารเช้าด้วย ชื่อโรงแรม Golden Silk Boutique Hotel ที่นี่บริการดีมากๆครับห้องสะอาดกว้างขวางอาหารเช้าก็อร่อยแทบไม่ซ้ำกันแต่ละมื้อ
ห้องนอนกว้างมาก ๆ ครับพื้นที่ใช้สอยสะดวกสบาย อยากมีห้องแบบนี้ซักห้องคงฟินน
ห้องน้ำก็สะอาด และพื้นที่กว้างขวางครับ
อาหารก็มีให้เลือกหลากรส ทั้งอาหารพื้นบ้านเวียดนาม อย่างเฝอ ที่รู้จักกัน หรือจะเป็นอาหารอินเตอร์ก็มีครับ
ด้านบนดาดฟ้าก็มีบาร์เครือ่งดื่มบริการพร้อมวิวสวยๆรอบๆเมืองอานอยครับ
หลังจากเก็บของเข้าที่พักเสร็จก็ได้เวลาสำรวจเมืองกันแล้วครับวันนี้ถึงก็ค่อนข้างเย็นเลยเราเลยยังไม่ได้ออกไปไหนไกลเดินเที่ยวรอบๆเมืองและผ่านมาเจอแถวนี้พอดีครับใกล้โรงแรมมากๆ
คือย่านนี้เลยครับ ย่าน Dong Kinh Nghia Thuc Square ถ้าให้เปรียบเทียบที่นี่ก็เปรียบเสมืองจัสตุรัสใจกลางกรุงฮานอยหรือย่านสยามสแควร์บ้านเราที่มีผู้คนจำนวนมากและเป็นแหล่งรวมของวันรุ่นที่มาเดินเล่นในย่านนี้ครับ
Location: https://goo.gl/maps/N5XVLHAhP7GsaR8K6
ที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ ตลาดของกิน ส่วนใหญ่ แต่ตอนเย็นก็จะมีกิจกรรมมากมายตรงลานกิจกรรม มีตลาดขายสินค้าเยอะแยะมากมาย สินค้าก็ใกล้เคียงบ้านเรานะครับ ราคาก็พอ ๆกันไม่ต่างกันมาก
เริ่มด้วยข้าวเย็นมื้อแรก กันที่ฮานอย จริง ๆ เราก็มองไว้หลายร้านครับ แต่ก็มาสะดุดร้านนี้ร้านแรก คือ ร้านนี้เลย
ผู้คนก็จะค่อนข้างเยอะนิดหน่อยรอคิวและแน่ใจว่าร้านนี้ต้องดังแน่ๆสุดท้ายก็ไม่ผิดหวังครับเพราะรสชาติใช้ได้เลยครับมีให้เลือกหลายหลายและไม่หวงเครื่องคือใส่มาเต็มมากๆครับ
ราคาอยู่ที่ 45,000 ดอง คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 45 บาทถูกมั๊ยครับถูกนะถ้าเทียบกับคุณภาพและปริมาณที่ได้
ต่อด้วยน้ำผลไม้ให้มีขายหลายร้านมากเลยขอลองบ้างผมลองน้ำอ้อยดูครับพอชิมครั้งแรกก็แอบตกใจเพราะน้ำอ้อยที่นี่เค๊าทำให้ไม่หวานโดยผสมน้ำมะนาวแต่โดยรวมรสชาติโอเคครับ
น้ำหวานราคา 17000 ดอง (22 บาท) ถูกอีกแล้วครับ
หมดไปแล้วครับสำหรับคืนแรก คืนแรกก็ได้เที่ยวสำรวจเมืองคร่าว ๆ แล้วก็ได้เวลากลับห้องพักผ่อน ครับ เตรียมตัวสำหรับวันพรุ่งนี้ครับ สำหรับคืนนี้ขอลาไปก่อนราตรีสวัสดิ์ครับ
Day2
เที่ยว ฮาลองเบย์ แบบ One day trip
ซื้อทัวร์จากโรงแรมไป ต่อคนคิดเป็นเงินไทย 1570 บาท ถือว่าสะดวกเพราะมีรถมารับส่งที่โรงแรม พร้อมอาหารเที่ยง และกิจกรรมหลักๆมีดังนี้
* เยี่ยมชมฮาลองเบย์ (Ha Long Bay) ซึ่งเป็นอ่าวตกปลาที่มีชื่อเสียงระดับโลกของเวียดนาม
* ชมโพรงถ้ำที่โดนน้ำกัดเซาะ ที่มีรูปร่างงดงาม
*พายเรือคายัคไปรอบหมู่บ้านชาวประมงบาฮัง (Ba Hang)
Location : https://goo.gl/maps/Hr5VHf11R6Y2xWob7
ฮาลองเบย์ ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกเลยครับ และได้ถือเป็นแหล่งแหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโกอีกด้วย ในอ่าวหะล็องมีเกาะหินปูนจำนวน เกือบ ๆ สองพัน เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวทะเล บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น หลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่อยู่ภายใน ถ้ำที่ใหญ่ที่สุดในบริเวณอ่าวคือ ถ้ำเสาไม้ที่มีหินย้อนที่เกิดจากการกัดเซาะของนำ้ จะสวยงามแค่ไหน ไปชมกันเลยครับ
หลังจากทานข้าวเช้าที่โรงแรมกันตั้งแต่ 6:30 น. แล้ว เราก็ได้เวลาออกเดินทางกัน 08:00 น. ด้วยรถบัสของทัวร์ของทางโรงแรมครับเจ้าหน้าที่ก็จะแวะรับตามโรงแรมที่ได้นัดหมายไว้
ระหว่างทางก็มีแวะพักรถตรงศูนย์ศิปลชีพคนพิการ ที่มีการปักรูปด้วยมือ สวยงามมาก ๆ ครับ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้ถ่ายรูป จึงไม่ได้แวะเก็บภาพบรรยากาศมาครับ
จากนั้นก็ถึงท่าเรือ เรียบร้อย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงได้ครับ พอถึงแล้วก็เที่ยงพอดี หิวข้าวพอดี เพราะเจ้าหน้าที่พาแวะ 2 ที่ เลยในใจแอบคิดลบนะครับ ว่าทัวร์เค๊ามีข้อตกลงทางธุรกิจกันรึเปล่า ถึงได้พาแวะบ่อย ฮ่าาา
ส่วนตั๋วจะรวมในราคาทัวร์อยู่่แล้วครับ ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเพราะเจ้าหน้าที่เตรียมไว้ให้เรียบร้อย
พอขึ้นเรือแล้วเจ้าหน้าที่ก็มีนัดหมายนิดหน่อย และก็เสิร์ฟอาหาร และเครื่องดื่ม อาหารจะรวมในทัวร์ด้วย แต่เครื่องดื่มไม่รวมนะครับ แยกจ่าย
ชั้น 2 ก็เป็นที่นั่งแบบเปิดสำหรับใครที่อยากขึ้นมาสูบบุหรี่ หรือนั่งชมวิว ถ่ายรูปสวย ๆ ก็ได้ครับ
วิวระหว่างทางก็จะประมาณนี้ครับ สวยงามเลยทีเดียว
พอถึงท่าเรือ ไกด์ก็จะพาเราไปชมโพรงถ้ำที่โดนน้ำกัดเซาะ ก่อน
วิวดีมาก ๆ ครับว่ามั๊ย
สวยงามยิ่งใหญ่สมคำร่ำลือ ครับ มาแล้วก็ต้องเข้ามาชมนะครับ คุ้มค่าที่ได้เห็น
จากนั้นก็ล่องเรือมาเรื่อย ๆ มุ่งหน้าไปหมู่บ้านชาวประมงบาฮัง ตรงนั้นก็จะมีที่ให้พายเรือพายัคด้วย หรือถ้าใครไม่สะดวกพายก็จะมีเจ้าหน้าที่พายให้
อย่าลืมรักษาตั๋วใบแรกไว้ดี ๆ นะครับเพราะต้องใช้ตรวจก่อนเข้าสถานที่ต่าง ๆ
ไกด์บอกว่าช่องหุบเขาที่ผ่านเข้าไปนี้คือเป็นจุดที่สวยที่สุด สำหรับการถ่ายรูป เราก็ไม่รอช้าครับ จัดกันคนละหลายรูปกันไปเลย
ถึงแล้วครับ หมู่บ้านชาวประมงบาฮัง จุดนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์ของฮาลองเบย์อีกที่ครับ เพราะต้องนั่งเรือเข้ามาด้านในและ นักท่องเที่ยวก็สามารถพายเรือพยัคไปรอบ ๆ หมู่บ้านชมความความงามของอ่าวแห่งนี้ ถ่ายรูปกันแบบฟิน ๆ ไปเลยครับ
พอเสร็จภาระกิจก็ได้เวลากลับโรงแรม ครับ และแน่นอนว่าต้องนั่งรถยาวอีก เกือบ 3 ชม. ขากลับจะเร็วกว่าเพราะไม่ได้แวะครับ และขึ้นทางด่วนมอเตอร์เวย์ครับ แต่เจ้าที่สอบถามความสมัครใจเพิ่ม โดยเก็บเพิ่มคนละ 20,000 ดอง ครับ
พอถึงที่พัก ก็หิวกันครับ พอเก็บของได้ก็เลยแวะออกไปทานข้าวด้านนอกัน ซึ่งเป็นโซนเดิมที่ไปเมื่อวานครับ คือย่าน Dong Kinh Nghia Thuc Square สามารถเลือกทานได้ตามใจชอบเลยครับ สำหรับวันี้อยากลอกเปลี่ยนร้านดู เลยขอลองร้านนี้ครับ ชื่ออาหารผมได้รู้จักนะครับ ฮ่าาา นี่ดูแต่รูป และก็ชี้เลือกกัน แต่ลองสอบถามเพื่อนเวียดนามเพื่อนบอกว่ามันคือ Bun Cha ครับที่มีขนมจีน และหมูคั่วเครื่อง กับน้ำจิ้ม ตอนแรกยังนึกไม่ออกว่ารสชาติเป็นยังไง แต่พอทานแล้วใช้ได้เลยครับ สั่งมาเยอะ แต่ก็ทานหมดเกลี้ยงครับ หารต่อคนอยู่ที่ 34,000 ดองครับ ถูกมากกครับและกินอิ่มด้วย คิดเป็นเงินไทย ก็อยู่ที่ 45 บาท เยี่ยมไปเลย
จากนั้นมาต่อกันด้วยขนมหวานร้านนี้ครับ ร้านนี้คนเต็มตลอด แสดงว่าดังชัวร์ ลักษณะก็เป็นผลไม้ ผสม ราดด้วยโยเกิร์ต และวุ้น นม น้ำเชื่อม ไม่หวงเครื่องด้วย โดยส่วนตัวชอบครับ อร่อย ดี ส่วนราคาอยู่ที่ 35,000 ดองครับ ราคาถูกอีกตามเคย แถมไม่หวงเครื่องด้วย
จบไปแล้วครับสำหรับ วันที่ 2 วันนี้จะหมดไปกับการเดินทางซะส่วนใหญ่ครับ แต่ถือว่าคุ้มนะครับที่ได้ไป เพราะสวยงามมาก ๆ ส่วนวันต่อไปเราก็ได้เวลาเที่ยวในตัวเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ของฮานอยครับ ว่าแล้วแอดขอตัวไปนอนก่อน ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะครับ
Day3
ท่องเที่ยวสถานที่สำคัญ ๆ ในตัวเมืองฮานอย
โบสถ์เซนต์โจเซฟ
Location : https://goo.gl/maps/ks96kuvA9uujvuxw8
website: tonggiaophanhanoi.org
วันเวลา เปิด ปิด : อา. 07:00 น. – 11:30 น. จ. – ส. 08:00 น. – 11:00 น.
‘โบสถ์เซนต์โจเซฟ’ ถือเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดในฮานอย
และเป็นศูนย์รวมชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในฮานอยด้วย
เหมาะกับมาถ่ายรูปชิคๆได้หลากหลายครับ
Vivienne Cafe Restaurant
Location : https://goo.gl/maps/y8xBmmNXmdLydarV6
วันเวลาเปิด ปิด : 9:00–2:00 ทุกวัน
รอบๆก็จะมีคาเฟ่ร้านกาแฟพร้อมอาหารให้ดื่มมากมายครับและเราเลือกร้านนี้ครับจะอยู่ติดโบสต์เลย
มีอาหาร และกาแฟ ที่รสชาติใช้ได้เลยทีเดียว ชั้น 2 ด้านนอกก็สามารถนั่งจิบกาแฟพร้อมวิวโบสถ์สวยๆด้านหลังครับ
ระหว่างทางก็มีอะไรให้ต้องแวะอยู่เรื่อย ๆ ครับ มุมให้ถ่ายรูปเยอะมากครับ
ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยม และ วัดหง็อกเซิน
ทะเลสาบฮหว่านเกี๊ยมหรือทะเลสาบคืนดาบนี่ก็คืออีกสถานที่ที่ไม่ควรพลาดนะครับสำหรับใครที่มาฮานอยทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองฮานอยเลยครับผมกับเพื่อนพักกันแถวนี้ด้วยจึงเดินมาได้สะดวก
บริเวณ ทะเลสาบก็จะมี ยังมีหอคอยโบราณโผล่ขึ้นพ้นน้ำ คนพื้นที่เรียกว่า หอคอยชมเต่าครับ และ อีกฝั่งก็จะเป็น วัดหง็อกเซิน” หรือ “วัดเนินหยก” ที่ตั้งอยู่ตอนเหนือของทะเลสาบก็มีตัวอย่างสตั๊ฟฟ์ของตะพาบชนิดนี้ให้ชมกันด้วยสะพานข้ามไปวัดก็เป็นสะพานแดงเหมาะแก่การถ่ายรูปมากๆครับ
Location : https://goo.gl/maps/C54anYAVf9f2ViCS6
website: tonggiaophanhanoi.org
บัตรค่าเข้าชม : 30,000 ดอง
วันเวลา เปิด ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่ 8:00–18:00
ครับส่วนรอบๆทะเลสาบ ก็สามารถแวะมาพักผ่อนหย่อนใจได้ตลอดครับ
หอคอยโบราณโผล่ขึ้นพ้นน้ำ คนพื้นที่เรียกว่า หอคอยชมเต่าครับ โด่นเด่นอยู่กลางทะเลสาบเลยทีเดียว
ระหว่างเดินไปวัด วัดหง็อกเซิน ใกล้ ๆ มุมนี้ได้ ถ่ายท่าเดินแป๊บ
เจอแล้วครับสะพานแดงโดดเด่นมาแต่ไกล ใกล้ถึงวัดแล้วครับ
ตั๋วเข้าชมอยู่ที่ 30,000 ดอง ครับ
ตัวอย่างสตั๊ฟฟ์ของตะพาบชนิดครับ ถือเป็นสัตว์ที่ชาวเวียดนามให้ความเคารพและศรัทธามาก ๆ
Cafe Trung Nguyen Legend Cafe (มีหลายสาขา)
Location:https://goo.gl/maps/R3pKQnUPbGgeoHbS8
วันเวลาเปิดปิด: ทุกวัน 6:30–22:00
ช่วงบ่ายเรามาต่อกันที่ ร้านกาแฟ กันก่อนนะครับ เนื่องจากโรงแรม อยู่ในตัวเมือง และใกล้สถานที่ท่องเที่ยว จึงกลับไปพักเที่ยงกันก่อน และบ่ายจึงเริ่มออกเที่ยวต่อ แต่ช่วงที่ไป ช่วงบ่ายร้อนมากครับ สู้แดดกันไม่ไหว จึงขอแวะร้านกาแฟซักแป๊บ ร้านนี้ก็จะอยู่ใกล้ ๆ สุสานโฮจิมินห์ ครับ ติดมุมถนนเลย จริง ๆ ร้านกาแฟ ไม่ได้ติดว่าต้องตามรีวิวจากที่อื่น แต่อารมณ์ประมาณว่าใกล้ที่ไหน เจอที่ไหน ดูจากภายนอกแล้วร้านไหนน่านั่งก็แวะกันเลยครับ ฮ่าาาา แต่ร้านนนี้ ราคาก็ค่อนข้างแอบแพงอยู่ ถ้าเปรียบเทียบร้านอื่น ๆ ผมสั่ง แตงโมปั่นไป ราคาต่อแก้วก็อยู่ที่ 66,000 ดอง ร้านอื่นก็ประมาณ 30,000-40,000 ดองครับ
หอคอยธงฮานอย
Location: https://goo.gl/maps/UHmYz7LBKhv1xjHBA
วันเวลาเปิดปิด : ทุกวัน 9:00–17:00
ก่อนที่จะถึง สุสานโฮจิมินห์ ก็ผ่านจุดนี้ก่อน จริง ๆ ยังไม่ได้เข้าไปนะครับ แต่เห็นแค่ด้านนอก ก็สะพรึงแล้วครับ เพราะยิ่งใหญ่ และหอคอยนี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งประวัติศาสตร์กองทัพของฮานอย
ตั้งแต่สมัยต้นศตวรรษที่ 19 แห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญยุคก่อนสงครามที่ยังหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งในภูมิภาคนี้ครับ
สุสานโฮจิมินห์
Location: https://goo.gl/maps/8eJnURYtsVWM5sPEA
วันเวลาเปิดปิด: ทุกวัน 8:00–17:00 เฉพาะวันจันทร์ 8:00–11:00
สถานที่แห่งนี้ถือเป็นสถานที่สำคัญของชาวเวียดนามและฮานอยมากๆครับเพราะเป็นสุสานที่เก็บพระศพของอดีตผู้นำของเวียดนามโฮจิมินห์ที่ยิ่งใหญ่นั่นเอง
ว่าแล้วก็ขอแนบความรู้เชิงประวัติศาตร์คร่าวๆนิดนึงครับ
สุสานโฮจิมินห์ เป็นสุสานขนาดใหญ่ของอดีตผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของชาวเวียดนาม ตั้งอยู่ที่กึ่งกลางจัตุรัสบาสติงห์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่โฮจิมินห์อ่านคำประกาศอิสรภาพของเขาเมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ.1945 ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบจากสุสานของเลนินในกรุงมอสโคว์ แต่รวมสถาปัตยกรรมของเวียดนามเข้าไปด้วย ดูสวยงามไม่เหมือนสุสานเลย บริเวณรอบๆ ถูกแบ่งเป็นทางเดินซึ่งประดับไปด้วยดอกไม้และต้นไม้กว่า 250 ชนิดจากทั่วทั้งเวียดนาม ภายในสุสานโฮจิมินห์มีทหารกองเกียรติยศในชุดเครื่องแบบเต็มยศสีขาวยืนถือดาบปลายปืนยืนรักษาการณ์อยู่ตลอดเวลา
ส่วนร่างของโฮจิมินห์นั้นถูกเก็บรักษาอยู่ในโลงแก้วบริเวณใจกลางสุสาน เพื่อให้ผู้เข้าชมได้รู้จักกับผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของเวียดนาม โดยในสุสานแห่งนี้ไม่อนุญาตให้ใส่กางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้น, ห้ามพูดคุยเสียงดัง, และไม่อนุญาตให้สูบบุรี่,ถ่ายรูปและวิดีโอใดๆทั้งนั้นชื่อในภาษาเวียดนามเรียกว่า จู่ติกโอจิมินห์
ที่มาวิกิพิเดีย
และนอกจากนี้บริเวณรอบๆก็จะเป็นอาคารส่วนทำเนียบประธานาธิบดีส่วนใหญ่จะเห็นเป็นสีเหลืองเพราะที่นี่เค๊าเชื่อกันว่าสีเหลืองหรือสีที่สดใสเป็นสีแห่งความเจริญรุ่งเรืองครับ
วัดเจดีย์เสาเดียว
Location : https://goo.gl/maps/2UQbSiHQDSR312UBA
วันเวลาเปิดปิด: ทุกวัน 8:00–17:00 เฉพาะวันจันทร์ 8:00–11:00
บริเวณใกล้ ๆ สุสานโฮจิมินห์ เดินอ้อมมาด้านหลังก็จะเป็น เจดีย์เสาเดียว ชาวเวียดนามเรียกว่า จั่วโมดโกด เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 เลยทีเดียวครับองค์ด้านในก็จะเป็นพระเจ้าแม่กวนอิมเพื่อให้ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวไว้กราบสักการะบูชาที่นี่ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวฮานอยมากๆครับเห็นมีคนบอกว่าคนชอบมาขอบุตรกันด้วย
Hanoi Street Train
Location: https://goo.gl/maps/yh2wdHUfaYyjKCCE9
จุดนี้ถือเป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของฮานอยไปแล้ว เพราะเป็นจุดทางรถไฟ และข้าง ๆ ก็จะมีคาเฟ่เล็ก ๆ ให้นั่งชมวิว ไปด้วย ถ้าโชคดีก็จะเจอช่วงรถไฟวิ่งผ่านครับ ตามรอยพิกัดได้เลย
Diamond sky bar
Locaton: https://goo.gl/maps/p5PY9Mv8rodC5r1E8
วันเวลาเปิดปิด: 11:30–0:00
จริง ๆ ก่อนหน้าเราไม่ได้แพลนกันสำหรับ ชมวิว sky bar แต่พอดีเพื่อน ของเพื่อน ก็มาฮานอยเหมือนกัน เลยได้นัดเจอกันสังสรรค์ซักเล็กน้อย เพื่อนเลยให้เราลองเลือกๆ sky bar ของที่นี่ดู เลยเจอว่า Diamond sky bar เป็นsky bar อันดับทอปของที่นี่เลยก็ว่าได้ครับขึ้นมาชมวิวด้านบนก็ไม่ผิดหวังครับวิวดีอาหารดีเครื่องดื่มดีแต่ถ้าเปรียบเทียบราคาที่ไทยถือกว่าถูกกว่ามากครับ
Day4
ต่อเนื่องจากทริปเมื่อวาน
วัดเจดีย์เฉินก๊วก
Location: https://goo.gl/maps/4dBdEV1Q4XrXC6FZ9
วันเวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตั้งแต่ 8:00–18:00
ค่าเข้าชมฟรี
วันนี้วันที่สี่แล้วถือว่าเป็นวันสุดท้ายของทริปละกันครับเพราะพรุ่งนี้ก็ตื่นเช้าขึ้นเครื่องกลับเลยวันนี้ก็เลยถือว่ากะชิวซักหน่อยครับเที่ยวแบบสายบุญนิดหน่อยเน้นเข้าวัดเข้าวาก็ว่ากันไปครับ
มาเริ่มกันที่ เจดีย์เฉินก๊วกครับ วัดนี้จะอยู่บนเกาะเล็ก ๆ บนทะเลสาบ เวสต์ ที่เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในกรุงฮานอยครับ และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าวัดนี้ มีอายุเก่าแก่เกือบ 1,500 ปีซึ่งถือเป็นวัดที่เก่าแก่ของกรุงอานอยเลยก็ว่าได้ครับภายในก็จะมีเจดีย์เหลี่ยมสีแดงที่สูงเด่นสง่าสไตล์จะใกล้เคียงกับจีนมีองค์พระพุทธรูปตั้งอยู่หลายแห่งเพื่อไว้สักการะและรอบๆวัดก็เป็นจุดนั่งชมวิวพักผ่อนหย่อนใจแก่ผู้มาเยี่ยมชมครับ
รีวิวเที่ยวฮานอย ฮาลองเบย์
วัดกวานแถ่งห์
Location:https://goo.gl/maps/FqLnoJs8PA3CQL5R7
วันเวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตั้งแต่ 8:00–18:00
เดินมาอีกหน่อยก็จะเจอวัดวัดกวานแถ่งห์ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับวัดเจดีย์เฉินก๊วกซึ่งลักษณะของวัดนี้จะแตกต่างจากวัดอื่นๆด้วยสถาปัตยกรรมที่มีความซับซ้อนด้านหน้าประตูวัดมีเสาสี่เสาที่สร้างขึ้นในสมัยก่อนประตูสามประตูถูกสร้างขึ้นบนแผ่นหินขนาดใหญ่มีหอระฆังระฆังสูงนี่ก็เลยไม่พลาดที่จะถ่ายรูปสวยๆกันไว้ครับ
รีวิวเที่ยวฮานอย ฮาลองเบย์
[Cafe] ข้างๆวัดวัดกวานแถ่งห์ก็ยังมีค่าเฟ่ไว้ให้พักผ่อนกันก่อนเดินทางต่อครับร้านนี้ก็จะดูแปลกๆตาไปอีกแบบเพราะสราางคร่อมต้นไม้ใหญ่เลยครับตกแต่ได้สวยงามส่วนรสชาติกาแฟก็ใช้ได้เลยครับ
วัดก๋วนสือ
Location: https://goo.gl/maps/A4DJMKKvfgGSbFRCA
วันเวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตั้งแต่ 8:00–18:00
มาต่อกันช่วงบ่ายที่ วัดก๋วนสือ กันครับ ซึ่งแต่ก่อนถือเป็นที่พักของเหล่า บรรดาฑูตที่ไปถวายเครื่องราชบรรณาการ และนับถือพุทธศาสนากันส่วนใหญ่ ที่นี่จึงกลายเป็นวัดพุทธแห่งแรกในฮานอยครับลักษณะวัดสีสันสะดุดตาด้วยสีเหลืองดูสวยแหละเหมาะแก่การถ่ายรูปมากๆครับก่อนจะถ่ายก็ได้มีโอกาศเข้าไปกราบสักการะทีวัดดังกล่าวเพื่อเป็นศิริมงคลครับ
รีวิวเที่ยวฮานอย ฮาลองเบย์
พิพิธภัณฑ์เรือนจำ Hoa Lo
Location: https://goo.gl/maps/u3RjFk9zMj62Hqcf6
วันเวลาเปิดปิด: ทุกวัน ตั้งแต่ 8:00–17:00
ตั๋วเข้าชม 30,000 ดอง
สำหรับใครที่สายดาร์คหน่อยๆ ชอบในความประวัติศาตร์และบรรยากาศห้องขังที่เคยใช้งานจริงๆละก็ที่นี่ถือเป็นอีกสถานที่ที่มาฮานอยแล้วไม่ควรพลาดอย่างยิ่งครับ
เพราะที่นี่เป็นสถานที่เเคยเป็นคุกสำหรับขังนักโทษทางการเมืองที่ต่อต้านฝรั่งเศสสมัยที่เวียดนามเป็นอณานิคมและคุมขังนักโทษอเมริกันสมัยสงครามเวียดนามข้างในจะทำหุ่นจำลองให้เห็นถึงความเป็นอยู่ของนักโทษในโซนต่างๆเข้าไปแล้วได้ความรู้มากมายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เวียดนามใครที่สนใจประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดเพื่อนที่มาด้วยกันจริงๆก็เข้าไปใหม่หมดนะครับเพราะบางคนก็กลัว
ถ้าดูจากภายนอกแล้วก็จะมีสีสันที่สวยงามเลยทีเดียวแต่ด้านในนี้คือหดหู่เอาเรื่องครับ
สะพานลองเบียน
Location: https://goo.gl/maps/aiSPWsHrBNhNJDwq5
สะพาน ลองเบียน ถือเป็นสะพานเหล็กแห่งแรกของกรุงฮานอยที่ใหญ่ที่สุด มีอายุ 120 กว่าปีตั้งแต่สมัยสงครามต่อต้านสหรัฐอเมริกาที่ยังหลงเหลือและยังใช้งานได้จริงจนถึงปัจจุบันสร้างโดยชาวฝรั่งเศสดูแล้วมีความคลาสสิกมากๆสภาพก็ทรุดโทรมตามกาลเวลาแต่ก็ต้องมีการบำรุงซ่อมแซมอยู่เรื่อยๆเพื่อให้ใช้งานได้ครับรถที่ขึ้นสะพานได้ที่ผมเห็นก็มีแต่มอเตอร์ไซตรงกลางก็เป็นเส้นทางรถไฟด้านข้างก็มีพ่อค้าแม่ค้าขายผักปูปลาแบบสดๆครับ —รีวิวเที่ยวฮานอย ฮาลองเบย์
จิตรกรรมกระเบื้องโมเสค ที่ยาวที่สุดในโลก
Location: https://goo.gl/maps/CGD9zmZfS5fu4ktX7
ยาวตามถนนหลัก ที่เชื่อมแต่ละสะพานเลยครับ ถ้านั่งรถผ่านจะเห็นสะดุดตาเลยทีเดียว
ถือเป็นงานศิลปะที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ ครับ เพราะเป็นการสร้างจิตรกรรมกระเบื้องโมเสคเซรามิคที่ยาวที่สุดในโลก เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 1,000 ปี กรุงฮานอย และประกาศเอกราช หลังหลุดพ้นจากการเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ตามผนังก็จะมีศิลปะมากมาย ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ขนบธรรมเนียมประเพณี ที่เป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญ ๆ ของเมืองเวียดนาม ได้ถูกบันทึกผ่านฝาผนังยาวสุดลูกหูลูกตาเกือบ 5 ก.ม. เลย ถือว่าเป็น landmark อีกที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกครับ —รีวิวเที่ยวฮานอย ฮาลองเบย์
แถม นั่งรถชิวก่อนกลับ
ก่อนกลับก็ได้มีโอกาศนั่งรถชิวในคืนสุดท้าย ว่าแล้วเรามาดูความสวยงามขอมที่นี่กันครับ —รีวิวเที่ยวฮานอย ฮาลองเบย์
และปิดท้ายที่ร้านนี้ครับ BUN NGAN ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดร้านเด็ดของที่นี่ เพื่อนแนะนำ และพามาครับ รสชาติใช้ได้เลย สีดูจืด ๆ หน่อย แต่บอกเลยว่าน้ำซุปเข้มข้นมาก ๆ ครับ
Day 5
Bye Bye Hanoi
เดินทางกลับ เที่ยวบิน VJ901 Hanoi(HAN) เวลา 11:10 – (BKK) สุวรรณภูมิ -13:00
ออกเดินทางตั้งแต่ 08:00 น. โดยรถตู้ของทางโรงแรม ค่าโดยสารเฉลี่ยคนละ 200 บาทก็พอไหวครับเพราะกลัวไม่ทันกัน ถ้าจะนั่งรถเมย์ก็กลัวไม่ทันเลยตัดสินใจนั่งรถตู้ไปสนามบินครับ –รีวิวเที่ยวฮานอย ฮาลองเบย์
ถึงสนามบินทันตามเวลาที่ตั้งไว้ครับ ก็มุ่งตรงเพื่อ Check in เช่นเคยครับขากลับเราก็ยังใช้บริการของ VietjetAir บินด้วยราคาสบาย ๆ พร้อมบริการทุกระดับประทับใจขนาดนี้ –รีวิวเที่ยวฮานอย ฮาลองเบย์
ได้เวลากลับแล้วสินะ ยังไม่อยากกลับเลย ฮ่าาา บอกตรง ๆ ว่าก่อนหน้านี้ไม่ค่อยอยากมาเท่าไหร่ แต่พอได้มาแล้ว รู้สึกว่าเราพลาดอะไรบางอย่างไป ทั้ง ๆ ที่อยู่ใกล้บ้านเรา ใครที่ยังไม่เคยมา ลองเปิดใจดูซักครั้งครับ วันแรกอาจจะยังไม่ชิน กับเสียงแตรรถนะครับ แต่วันที่สอง วันทีสามก็ชินซะงั้น เดินข้ามถนนคล่องเลย รู้สึกปลอดภัยกว่าข้ามถนนบ้านเราซะอีก ยังไง ก็ลองดูนะครับ ฮานอย เวียดนาม ถือเป็นหนึ่งในลิสที่ควรมาซักครั้งครับ——รีวิวเที่ยวฮานอย ฮาลองเบย์
รีวิวอื่นๆ
1.รีวิวเที่ยวเกาะช้าง 3 วัน 2 คืน พักที่ SEA VIEW KOH CHANG
2.รีวิวเที่ยว ไทเป ไต้หวัน 5 วัน 4 คืน ตลุยกินแหลก ไปกับเดอะแก๊ง
3.SHANGHAI DISNEYLAND พาเที่ยวจัดเต็ม 2 วัน พร้อมเทคนิค เล่นยังไงให้ไม่พลาด